Page 226 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๑-๒๕๖๑-กฎหมายฯ
P. 226
´ØÅ¾ÒË
กอนที่จะตรวจสอบทฤษฎีตางๆ เกี่ยวกับความรับผิด กรณีจะเปนประโยชนที่จะหยุด
พิจารณาวามาตรฐานความระมัดระวังที่จะใชกับรถที่ปราศจากคนขับจะแตกตางจาก
มาตรฐานที่ใชกับรถที่ขับขี่โดยมนุษยหรือไม มีเหตุผลมากมายที่จะทําใหคิดไดวาคําตอบ
นาจะเปนคําวา “ใช” และขอเท็จจริงดังกลาวนี้อาจจะขึ้นอยูกับผลการวิเคราะหที่จะกลาวถึง
ตอไป
ขอความขางตนที่บอกวาคนขับที่เปนมนุษยกอใหเกิด (caused) หรือมีสวนทําใหเกิด
(contributed) อุบัติเหตุขึ้น คําวา “มีสวน” ทําใหเกิดมาจากคําวา contribute ซึ่งมี
ความหมายถึงการที่มีผูเกี่ยวของหลายคน และแตละคนมีความเกี่ยวพันกับเหตุการณที่เกิดขึ้น
โดยการกระทําของผูเกี่ยวของแตละรายนั้นทําใหเกิดเหตุการณนั้นขึ้น แมวาจะไมไดตกลง
ที่จะทําใหเกิดเหตุการณนั้นรวมกันก็ตาม
ในแงของกฎหมายละเมิดแลวมีหลักกฎหมายประการหนึ่งที่เรียกวา Contributory
negligence ซึ่งอาจสื่อความหมายไดวาเปนความประมาทเลินเลอที่มีสวนกอใหเกิดอันตราย
หรือความเสียหายขึ้น เพียงแตความประมาทเลินเลอดังกลาวนั้นเปนการกระทําของผูเสียหาย
เองที่มีสวนทําใหเกิดผลที่เปนอันตรายหรือความเสียหายนั้นขึ้น หลักการดังกลาวนี้ถือวา
เปนขอตอสูหรือ defence ประเภทหนึ่งที่จําเลยหรือผูกระทําละเมิดสามารถยกขึ้นอาง
เพื่อทําใหตนเองหลุดพนจากความรับผิดได หากขอเท็จจริงจากการนําสืบสามารถพิสูจน
ใหเห็นไดวาผูเสียหายมีสวนประมาทที่ทําใหเกิดอันตรายหรือความเสียหายนั้นขึ้น จําเลยหรือ
ผูกระทําละเมิดก็จะหลุดพนจากความรับผิดที่จะตองชดใชคาสินไหมทดแทนไป
ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยเราอาจจะคุนเคยกับหลักการในมาตรา ๔๔๒
ที่ระบุวาถาความเสียหายเกิดขึ้นเพราะความผิดอยางหนึ่งอยางใดของผูตองเสียหายแลว
ใหนํามาตรา ๒๒๓ มาใชบังคับโดยอนุโลม ซึ่งตามมาตรา ๒๒๓ การกําหนดคาสินไหมทดแทน
จะพิจารณาโดยอาศัยพฤติการณเปนประมาณ โดยเฉพาะอยางยิ่งจะดูวาฝายใดเปนผูกอใหเกิด
ความเสียหายยิ่งหยอนไปกวากันเพียงใด
หลักการตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยดังกลาวนี้จะเปนหลักการอีกเรื่อง
หนึ่งที่แตกตางจากหลักการ Contributory negligence ที่กลาวถึงขางตน เพราะการที่
ผูตองเสียหายมีสวนผิดไมไดทําใหผูทําละเมิดหลุดพนความรับผิดไป อยางไรก็ตาม ในแงของ
หลักการเกี่ยวกับความรับผิดทางแพงที่ใชกันอยูในตางประเทศมีอีกหลักการหนึ่ง
ที่เรียกวา Comparative negligence ซึ่งจะเห็นไดวาหลักการนี้เนนไปที่การ compare
มกราคม - เมษายน ๒๕๖๑ ๒๑๕