Page 227 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๑-๒๕๖๑-กฎหมายฯ
P. 227

´ØÅ¾ÒË





              หรือการเปรียบเทียบ จึงอาจจะมีความใกลเคียงกับหลักการตามประมวลกฎหมายแพง

              และพาณิชยมากกวา  แตก็ไมใชวาจะเหมือนกันเสียทีเดียว

                       ขอแตกตางระหวางหลักการ Contributory negligence และ Comparative

              negligence คือ หากถือวาเปนหลักการของ Contributory negligence แลว หากผูกระทํา
              ละเมิดสามารถพิสูจนใหเห็นวาผูตองเสียหายมีสวนผิดในการกอใหเกิดความเสียหายนั้นขึ้น
              ผูกระทําละเมิดจะหลุดพนความรับผิดนั้นไปทันที แตหากเปนหลักการของ Comparative

              negligence แลว แมจะพิสูจนไดวาผูตองเสียหายมีสวนผิดก็ไมทําใหผูกระทําละเมิดหลุดพน

              ความรับผิดไปทันที แตจะตองมีการ “เปรียบเทียบ” หรือ compare ระหวางความผิด
              ในสวนของผูตองเสียหายกับความผิดของผูกระทําละเมิดวาแตละฝายมีสวนกอใหเกิด
              ความเสียหายมากนอยเพียงใด ผูกระทําละเมิดจะยังคงตองรับผิดชดใชคาสินไหมทดแทน

              เฉพาะเพียงเทาสัดสวนที่เปนความผิดของฝายตนเทานั้น

                       ตัวอยางเชน หากผูตองเสียหายมีสวนผิดที่ทําใหเกิดความเสียหายขึ้นคิดเปน

              อัตราสวนไดรอยละ ๒๐ และเปนความผิดของผูทําละเมิดคิดเปนอัตราสวนไดรอยละ ๘๐

              หากความเสียหายที่เกิดขึ้นคิดเปนเงินได ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ผูทําละเมิดก็จะตองรับผิดชดใช
              เงินเพียง ๘๐๐,๐๐๐ บาท ตามอัตราสวนความผิดของตนที่กอใหเกิดความเสียหายนั้นขึ้น


                       อยางไรก็ตาม รูปแบบของหลักการ Comparative negligence นี้ในสหรัฐอเมริกา
              ก็มีความแตกตางกันในมลรัฐตางๆ ดวย เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนแนวคิดไปตามที่แตละมลรัฐ
              เห็นวาเหมาะสม โดยบางรัฐอาจมีขอจํากัดวาผูตองเสียหายจะไดรับการชดใชคาสินไหมทดแทน

              ตอเมื่ออัตราสวนความผิดของฝายตนไมเกินกวาครึ่งหนึ่งหรือรอยละ ๕๐ หรือกลาวอีกนัยหนึ่ง

              คือความผิดของผูทําละเมิดตองมีมากกวาผูตองเสียหายจึงจะทําใหผูตองเสียหายนั้นมีสิทธิ
              ไดรับการชดใช แตในบางรูปแบบของหลักการนี้อาจจะใชวิธีการเปรียบเทียบโดยไมมีขอจํากัด
              ดังกลาวก็ได เชน แมอัตราสวนความผิดของผูตองเสียหายจะคิดเปนรอยละ ๖๐ และของ

              ผูทําละเมิดคิดเปนรอยละ ๔๐ หากความเสียหายที่เกิดขึ้นคิดเปนเงินได ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท

              ผูทําละเมิดก็จะตองรับผิดชดใชเพียง ๔๐๐,๐๐๐ บาท

                       สินคาที่ใชเทคโนโลยีที่มีสมองกลที่สามารถคิดและทํางานไดดวยตัวเองนั้น

              ถึงอยางไรก็ยังเปน “สินคา” (product) ดวยชนิดหนึ่ง ดังนั้น กฎหมายเรื่องหนึ่งที่เขามา
              เกี่ยวของดวยอยางหลีกเลี่ยงไมไดคือกฎหมายวาดวยความรับผิดตอความเสียหายอันเกิด






              ๒๑๖                                                             เลมที่ ๑ ปที่ ๖๕
   222   223   224   225   226   227   228   229   230   231   232