Page 23 - คู่มือปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุตจริตฯ
P. 23
คู่มือการปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
| 12
๒. เดิม ป.อ. ไม่มีบัญญัตินิยามค าว่า “เจ้าพนักงาน” ไว้ ต่อมาปี ๒๕๕๘
2
จึงมีการแก้ไขเพิ่มเติมนิยามค าว่า “เจ้าพนักงาน” ตาม ป.อ. มาตรา ๑ (๑๖) โดยน าหลักใน
ค าพิพากษาศาลฎีกาหลายฉบับมาบัญญัติไว้ให้เป็นรูปธรรม แต่มีแนวค าพิพากษาศาลฎีกา
บางเรื่องให้ความส าคัญต่อการได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนจากงบประมาณรายจ่าย
หมวดเงินเดือนมาเป็นส่วนหนึ่งในการวินิจฉัยความเป็นเจ้าพนักงาน แต่ตามนิยามกฎหมายใหม่
ไม่จ าต้องพิจารณาว่าได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ ดังนั้น หลักในค าพิพากษาศาลฎีกาหลาย ๆ ฉบับ
ที่ไม่ได้วินิจฉัยในส่วนของค่าตอบแทนจึงยังคงใช้เป็นบรรทัดฐานต่อไปได้
๓. บุคลากรในมหาวิทยาลัยนอกระบบ เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล ไม่มีฐานะ
เป็นเจ้าพนักงานตาม ป.อ. มาตรา ๑๕๗ (อุทธรณ์แดงที่ ๓๓๔๕/๒๕๖๑ ระหว่างนายสุกรี โจทก์
นายบรรจง จ าเลย, อุทธรณ์แดงที่ ๓๑๓๑/๒๕๖๐ ระหว่างนางศันสนีย์ โจทก์ นายบรรจง
จ าเลย) และถ้าศาลยกฟ้องเพราะไม่ใช่เจ้าพนักงานตาม ป.อ. แล้ว หากน าคดีมาฟ้องใหม่ว่าเป็น
“พนักงาน” ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๐๒
ถือว่าเป็นฟ้องซ้ า (อุทธรณ์แดงที่ ๔๓๐๗/๒๕๖๑ ระหว่างนายสุกรี โจทก์ นายบรรจง จ าเลย)
๔. ผู้เสียหายไม่สามารถฟ้องคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นจ าเลยได้ (ฎีกาที่
๑๖๗๘๑/๒๕๕๗, อุทธรณ์แดงที่ ๑๘๑๕/๒๕๖๑ ระหว่างนายนิพิฐ โจทก์ นางสาวสุภา จ าเลย)
๕. โจทก์ส่งมอบเงินให้แก่จ าเลย เพื่อให้น าไปมอบให้แก่บุคคลที่สามารถ
ช่วยเหลือบุตรโจทก์ให้ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการต ารวจได้ ถือว่าโจทก์เป็นผู้ก่อให้
จ าเลยกระท าความผิด โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่มีอ านาจฟ้อง ตาม ป.อ. มาตรา 143
(ฎีกาที่ ๒๐๗๗/๒๕๖๐)
หมายเหตุ
ฎีกาที่ ๖๐๔๖/๒๕๖๐ วางหลักว่า ในกรณีที่ผู้เสียหาย “ถูกหลอก”
ให้ส่งมอบเงิน เพื่อน าไปมอบให้แก่บุคคลที่สามารถช่วยเหลือให้สอบเข้ารับราชการได้ กรณี
ดังกล่าวถือว่าเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยในการกระท าความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๓๔๑, ๓๔๓
(ตามฎีกาโจทก์ไม่ได้ฟ้องข้อหาตาม ป.อ. มาตรา ๑๔๓)
2 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2558.