Page 249 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 249

ดุลพาห




                     นอกจากบทนำาและบทสรุปแล้ว เนื้อหาหลักของหนังสือประกอบไปด้วย ๗ บท
            บทแรกนำาเสนอความหมายที่แตกต่างกันในทางทฤษฎีของคำาว่าการกระทำาผิดซำ้า ที่อาจ

            หมายถึงการถูกจับกุมซำ้า (rearrest) การถูกลงโทษซำ้า (reconviction) หรือการถูกจำาคุกซำ้า

            (reincarceration) ก็ได้ กับอธิบายถึงวิธีการที่แตกต่างกันในการทราบปริมาณของกระทำาผิด
            ซำ้า โดยเน้นว่าระยะเวลาเก็บข้อมูลจะมีผลต่ออัตราการกระทำาผิดซำ้าที่ได้ โดยยิ่งกำาหนดระยะ

            เวลานานเท่าใด อัตราการกระทำาผิดซำ้าก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น โดยมีการยกตัวอย่างในอังกฤษ
            ผู้พ้นโทษปี ๒๐๐๐ มีอัตราการกระทำาผิดซำ้าภายใน ๓ เดือนหลังพ้นโทษเพียงร้อยละ ๒๐

            แต่เมื่อผ่านไป ๑ ปี เพิ่มเป็นร้อยละ ๔๓ เมื่อผ่านไป ๕ ปี พบว่ากระทำาผิดซำ้าร้อยละ ๖๘
            และยิ่งเวลาผ่านไป จำานวนครั้งในการกระทำาผิดของผู้กระทำาผิดคนเดิมจะยิ่งมากขึ้น และมี

            แนวโน้มจะมีการกระทำาผิดร้ายแรงขึ้นกว่าเดิม และในบทนี้ผู้เขียนยังนำาเสนอว่าอัตราการ

            กระทำาผิดซำ้าสำาหรับผู้ต้องโทษแต่ละประเภทนั้นมีความแตกต่างกัน นอกจากนั้นยังกล่าวถึง
            ต้นทุนหรือผลกระทบทางการเงินที่เกิดจากการกระทำาผิดซำ้า เพราะการกระทำาผิดซำ้าแต่ละครั้ง
            แสดงให้เห็นถึงต้นทุนและความล้มเหลวของความพยายามในการแก้ไขฟื้นฟูครั้งก่อนๆ ตลอดจน

            อธิบายให้เห็นข้อความคิดในเรื่องการหยุดกระทำาผิดซำ้าหรือการถอยห่างจากอาชญากรรม

            (desistance) อีกด้วย

                     ในบทที่ ๒ ผู้เขียนทบทวนผลการศึกษาเกี่ยวกับวิถีอาชญากรและการเปลี่ยนแปลง

            พฤติกรรมการกระทำาผิดในแต่ละช่วงอายุ โดยนำาเสนอข้อมูลการศึกษาของ CSDD ที่ติดตาม
            กลุ่มตัวอย่างไปจนถึงอายุ ๕๐ ปี ตลอดจนปัจจัยเสี่ยงที่อาจใช้ทำานายการกระทำาผิดซำ้าหรือ

            จำาแนกผู้กระทำาผิดเรื้อรัง (chronic offender) ได้ ผลการศึกษาที่น่าสนใจคือ CSDD พบว่า
            จะมีผู้กระทำาความผิดกลุ่มหนึ่งคิดเป็นร้อยละ ๗.๗ ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดที่ตลอดช่วงชีวิต

            จะกระทำาความผิดมากกว่า ๑๐ ครั้ง และจำานวนการกระทำาผิดของคนกลุ่มนี้จะคิดเป็นถึง
            ร้อยละ ๕๓.๔ ของการกระทำาผิดทั้งหมดตลอดช่วงชีวิตของกลุ่มตัวอย่าง ในจำานวนผู้กระทำาผิด

            มากกว่า ๑๐ ครั้งนี้ มีอยู่ ๘ คนที่กระทำาผิดมากกว่า ๑๕ ครั้ง ในบทที่ ๓ ผู้เขียนจึงนำาเสนอ

            ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติชีวิตโดยละเอียดของคนกลุ่มนี้ เพื่อหาคำาตอบว่าเหตุใดบุคคลกลุ่มนี้
            จึงเริ่มกระทำาผิด เหตุใดจึงกระทำาผิดต่อหลังจากถูกลงโทษครั้งแรก และเหตุใดจึงไม่หยุด

            การกระทำาผิดเมื่ออายุมากขึ้นเหมือนบุคคลอื่น









            238                                                              เล่มที่ ๓ ปีที่ ๖๕
   244   245   246   247   248   249   250   251   252   253   254