Page 25 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 25

๗



                       ๑.๔ ขอบเขตกำรวิจัย

                                 การวิจัยนี้ใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสมวิธี (Mixed Methods Research) ประเภทการ

                       วิจัยแบบขั้นตอนเชิงสำรวจ (Exploratory Sequential Design) โดยเริ่มจากการวิจัยเชิงคุณภาพ
                       (Qualitative Research) ด้วยรูปแบบการศึกษาเชิงเอกสาร (Documentary Study) แล้วตามด้วย

                       การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ด้วยรูปแบบการศึกษาเชิงสำรวจ (Survey Study)

                       และใช้การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการสร้างโมเดลสมการความสัมพันธ์เชิงโครงสร้าง (Structural
                                                                                  ื
                       Equation Modeling: SEM) ทั้งนี้ ผู้วิจัยได้กำหนดขอบเขตการวิจัยเพ่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการ
                       วิจัย ประชากรและตัวอย่าง งานวิจัยดังนี้

                                 ๑.๔.๑ ขอบเขตด้ำนเนื้อหำ


                                 การศึกษาทางเอกสารมีขอบเขตด้านเนื้อหา ดังนี้

                                 ๑) เนื้อหาจากเอกสารขั้นปฐมภูมิ (Primary source) คือ พระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย

                       มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พุทธศักราช ๒๕๓๙ อาทิเช่น โกธนสูตร ฆัตวาสูตร อักโกสกสูตร
                       ทุพพัณณิยสูตร วิตักกสัณฐานสูตร เป็นต้น


                                 ๒) เนื้อหาจากเอกสารขั้นทุติยภูมิ (Secondary source) ได้แก่ อรรถกถา ฎีกา ปกรณวิ
                       เสส หนังสือตำราพระพุทธศาสนาเถรวาท ที่เกี่ยวกับความโกรธหรือโทสะ


                                     ๓) เนื้อหาการจัดการความโกรธทางจิตวิทยาตามแนวคิด สปิลเบอร์เกอร์ (Spielberger)
                       และ โนวาโค (Novaco)


                                    ๑.๔.๒ ขอบเขตด้ำนประชำกรศึกษำและกลุ่มตัวอย่ำง

                                   ๑) ประชากรศึกษา หมายถึง บุคคลทั่วไปอายุตั้งแต่ ๒๐ ปี ทั่วไป ที่ไม่มีภาวการณ์

                       เจ็บป่วยทางสุขภาพจิต

                                 ๒) กลุ่มตัวอย่าง หมายถึง บุคคลอายุตั้งแต่ ๒๐ ปี ที่ไม่มีภาวการณ์เจ็บป่วยทางสุขภาพจิต

                       และ ยินยอมสมัครใจเข้าร่วมวิจัย

                                 ๓) ขนาดตัวอย่าง (Sample Size) การกำหนดขนาดตัวอย่างเพื่อสร้างโมเดลสมการ

                       โครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) ผู้วิจัยได้พิจารณาเกณฑ์การกำหนดขนาด
                                              ๒๗
                       ตัวอย่างของ Hair และคณะ  (เสนอว่ากรณีโมเดลที่มีปัจจัยแฝงไม่เกิน ๗ ปัจจัย จำนวนตัวอย่างที่




                                 ๒๗  Hair, J. F. Jr. Black, W. C., Babin, B. J. Anderson, R. E. and Tatham, R. L.,

                       Multivariate data analysis, 6  ed., (New Jersey: Prentice Hall, 2006), pp. 112-113.
                                                  th
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30