Page 29 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 29

๑๑



                                  ๑.๖.๒ เอกสำรและงำนวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกำรจัดกำรควำมโกรธทำงพระพุทธศำสนำ

                                  ปัจจุบันการจัดการความโกรธได้นำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้เพื่อ

                       พัฒนาจิตให้รู้เท่าทันความโกรธและสามารถระงับหรือจัดการความโกรธได้อย่างเหมาะสม ผู้วิจัยได้
                       ค้นคว้าเอกสารและงานวิจัยเฉพาะที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์งานวิจัย มีงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้


                                 พระครูปรำโมทย์สีลคุณ ได้วิจัยเรื่อง “ลักษณะความโกรธในพระไตรปิฎก” พบว่า ความ
                       โกรธ มีความหมายมาจากศัพท์ภาษาบาลีว่า โกธ แปลว่า ความกำเริบ ความขุ่นเคืองในจิตใจ มีศัพท์ที่

                       ใช้เหมือนกับความโกรธ คือ โทสะ คือความรู้สำนึกคิดประทุษร้าย ความโกรธ มีความดุร้ายและเป็น
                       ลักษณะเหมือนกันกับอสรพิษที่ถูกตี มีความพลุ่งพล่านเป็นรสเปรียบเหมือนกันกับยาพิษที่ใส่ลงไปใน

                       แม่น้ำ เปรียบเหมือนกันกับไฟป่าที่กำลังเผาป่าให้ไหม้ เหตุที่ทำให้เกิดความโกรธนั้นมี ๕ ประการ คือ

                                    ั
                       ๑) มีโทสะเป็นอธยาศัยมาแต่กำเนิด ๒) มีความคิดไม่ละเอียด ไม่ลึกซึ้งเป็นปกติ ๓) มีการศึกษามีการ
                       สดับรับฟังน้อย ๔) ได้ประสบกับอารมณ์ที่ไม่ดีอยู่ในเนืองๆ คือ อนิฏฐารมณ์ และ ๕) อารมณ์ที่ไม่น่า

                       ใคร่ น่าพอใจ ไม่น่าชอบใจ เช่น รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ ได้ประสบกับอาฆาตวัตถุ ๑๐
                             ๓๘
                       ประการ

                                                                  ิ
                                                                          ฺ
                                 พิมพ์ชนก สืบพงษ์สังข์ และ พระมหำวเชียร ธมมวชิโร ได้วิจัยเรื่อง “วิธีลดความโกรธ
                       ในคัมภีร์อรรถกถาธรรมบท” กรณีศึกษาในคัมภีร์อรรถกถาธรรมบท จำนวน ๓๒ เรื่อง ผลการวิจัย
                       พบว่า สาเหตุที่ทำให้บุคคลเกิดความโกรธมี ๓ ประการคือ ๑) ความโลภหรือความกลัวการสูญเสีย

                       ผลประโยชน์ที่เคยได้รับ ๒) ความยึดมั่นถือมั่นในความคิดเห็นหรือความต้องการของตน ๓) การถูก
                       กลั่นแกล้ง ถูกประทุษร้าย การไม่ได้รับความเป็นธรรม งานวิจัยนี้เสนอวิธีการลดความโกรธด้วยการ

                       ปฏิบัติตามองค์ธรรม ๖ ประการ ดังนี้ ๑) การเจริญปัญญา ๒) การให้ ๓) อภัยทาน ๔) การเจริญไตร

                       ลักษณ์ ๕) การเจริญเมตตา ๖) ความอดทนอดกลั้น เมื่อบุคคลปฏิบัติตนตามองค์ธรรมทั้ง ๖ ประการ
                       อย่างต่อเนื่องและจริงจัง บุคคลย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในจิตใจ สามารถละทิ้งนิสัยเดิมและ

                                                                      ๓๙
                       ปลูกฝังนิสัยใหม่ ซึ่งมีผลให้บุคคลสามารถลดความโกรธได้
                                 จ ำรัส พรหมบุตร ได้วิจัยเรื่อง “ความโกรธในทัศนะพุทธจิตวิทยา” ผลการวิจัยพบว่า

                       ความโกรธเกิดจากการไม่ได้อะไรตามที่ใจประสงค์ มักเกิดขึ้นเมื่อความคาดหวัง ความต้องการกับ





                                 ๓๘  พระครูปราโมทย์สีลคุณ, “ลักษณะความโกรธในพระไตรปิฎก”, วิทยำนิพนธ์พทธศำสตร
                                                                                                 ุ
                       มหำบัณฑิต สำขำวิชำพระพทธศำสนำและปรชญำ, (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย,
                                             ุ
                                                           ั
                       ๒๕๖๑).
                                 ๓๙  พิมพ์ชนก สืบพงษ์สังข์ และพระมหาวิเชียร ธมฺมวชิโร, “วิธีลดความโกรธในคัมภีร์อรรถกถาธรรม
                       บท”, วำรสำรบัณฑิตศึกษำปริทรรศน์, ปีที่ ๑๔ ฉบับพิเศษ (มิถุนายน-กันยายน ๒๕๖๑): ๑๓๑-๑๔๒.
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34