Page 38 - ขอเสนอเชงนโยบายเพอสนบสนนฯ e-book 1_Neat
P. 38

2) คณะกรรมกำรผู้แทนรัฐสภำ (Committee Representing Pyidaungsu Hluttaw:
                CRPH) จัดตั้งโดยพรรค NLD เพื่อสร้ำงควำมชอบธรรมในกำรจัดตั้งรัฐบำลพลัดถิ่น โดยประกำศใช้
                กฎบัตรสหพันธรัฐประชำธิปไตยเป็นรัฐธรรมนูญชั่วครำว จัดตั้งรัฐบำลเอกภำพแห่งชำติ (National Unity

                Government) และสร้ำงกองทัพสหพันธรัฐ (Federal Army) ขณะเดียวกัน พยำยำมแสวงหำควำมร่วมมือ
                จำกกองก�ำลังกลุ่มชำติพันธุ์และประชำคมระหว่ำงประเทศ เพื่อสร้ำงอ�ำนำจต่อรองกับ SAC ในระยะ
                ต่อไป อย่ำงไรก็ตำม CRPH ยังมีบทบำทจ�ำกัด เนื่องจำกยังไม่มีประเทศใดให้กำรรับรองเช่นเดียวกับ
                กลุ่มชำติพันธุ์ที่ยังคงสงวนท่ำที

                              3) กองก�ำลังกลุ่มชำติพันธุ์ ส่วนใหญ่ยังสงวนท่ำที และไม่สนับสนุนฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่ง
                อย่ำงชัดเจน แม้ SAC และ CRPH พยำยำมดึงเข้ำเป็นพันธมิตร อย่ำงไรก็ตำม สหภำพแห่งชำติ
                กะเหรี่ยง (Karen National Union: KNU) มีท่ำทีแข็งกร้ำวต่อ SAC ที่สุด ขณะเดียวกันยังคงรักษำ
                ช่องทำงติดต่อ และให้ควำมช่วยเหลือในทำงลับแก่ CRPH อำทิ กำรให้พื้นที่พักพิงแก่แกนน�ำพรรค

                NLD และเตรียมพื้นที่ปลอดภัยแก่ประชำชน ทั้งนี้ กำรจัดตั้งกองทัพสหพันธรัฐของ CRPH ยังเป็นไป
                ได้ยำก เนื่องจำกกลุ่มชำติพันธุ์ไม่มีควำมเป็นเอกภำพ และยังยึดผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก
                              4) ประชำคมระหว่ำงประเทศ ไม่สำมำรถสร้ำงแรงกดดันต่อ SAC ได้มำกนัก โดย
                สหรัฐอเมริกำและพันธมิตร ใช้มำตรกำรคว�่ำบำตรแบบเฉพำะเจำะจงต่อนำยทหำรระดับสูง และธุรกิจ

                ของกองทัพ เนื่องจำกเกรงว่ำ กำรคว�่ำบำตรที่รุนแรงอำจผลักให้เมียนมำใกล้ชิดจีนมำกขึ้น ในขณะที่จีน
                และรัสเซึ่ียยังคงใช้สิทธิยับยั้งมำตรกำรลงโทษเมียนมำในกรอบคณะมนตรีควำมมั่นคงแห่งสหประชำชำติ
                (United Nations Security Council: UNSC)
                         แนวโน้มสถำนกำรณ์กำรเมืองในเมียนมำจะทวีควำมรุนแรงต่อเนื่อง โดย SAC น่ำจะจัดวำง

                ระบบกำรเมืองใหม่ที่เอื้อประโยชน์ต่อกองทัพเมียนมำในระยะยำวและยังคงใช้มำตรกำรแข็งกร้ำว
                ต่อผู้ชุมนุมเพื่อควบคุมสถำนกำรณ์ ในขณะที่ผู้ชุมนุมอำจยกระดับใช้ควำมรุนแรงหรือก่อวินำศกรรมต่อ
                ผลประโยชน์ของกองทัพเมียนมำ รวมถึงจัดหำอำวุธจำกแหล่งต่ำง ๆ ส่วนกลุ่มชำติพันธุ์ ไม่น่ำจะท�ำ
                สงครำมเต็มรูปแบบกับกองทัพเมียนมำเนื่องจำกมีศักยภำพต�่ำกว่ำ แต่ยังคงปรำกฏกำรสู้รบอย่ำงจ�ำกัด

                ในเขตอิทธิพลของกลุ่มชำติพันธุ์
                          ส�ำหรับผลกระทบด้ำนควำมมั่นคงต่อไทย สถำนกำรณ์ควำมรุนแรงในเมียนมำเป็นปัจจัย
                ส�ำคัญที่ท�ำให้เกิดกำรอพยพของผู้หนีภัยควำมไม่สงบชำวเมียนมำรวมถึงนักกำรเมืองเมียนมำที่อำจใช้
                ไทยเป็นพื้นที่พักพิงหรือเส้นทำงเพื่อลี้ภัยไปยังประเทศที่สำม ซึ่ึ่งอำจเพิ่มควำมเสี่ยงกำรแพร่ระบำด

                ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 ในไทย และส่งผลกระทบด้ำนเศรษฐกิจ ทั้งธุรกิจไทยในเมียนมำ
                และกำรค้ำชำยแดน ตลอดจนด้ำนกำรต่ำงประเทศ จำกกำรถูกกดดันให้รับภำระด้ำนมนุษยธรรม

                          1.6  ความขัดแย้งอื่น ๆ ในภูมิภาค อำทิ กรณ้เกำหลีเหน่อยังคงพัฒนำโครงกำร
                นิวเคลียร์ โดยจะยังมีกำรยิงทดสอบขีปนำวุธเป็นระยะ และปัญหำควำมมั่นคงของจีนกรณีไต้หวัน
                กำรเรียกร้องสิทธิปกครองตนเองของเขตบริหำรพิเศษฮ่องกง เขตปกครองตนเองซึ่ินเจียง และทิเบต

                          1.7  สถานการณ์ความขัดแย้งกับประเทศรอบบ้าน โดยเฉพำะควำมขัดแย้งระหว่ำง
                ประเทศกรณีพื้นที่ทับซึ่้อนระหว่ำงไทยกับประเทศรอบบ้ำนทั้งเขตแดนทำงบกและทำงน�้ำ ยังไม่มี
                แนวโน้มจะยุติ และมีควำมเสี่ยงที่จะกระทบควำมสัมพันธ์ระหว่ำงประเทศ เนื่องจำกปัญหำดังกล่ำว



           36     ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติิิ (พ.ศ. 2566 - 2570)
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43