Page 18 - (ร่าง)การพยาบาลอาชีวอนามัย
P. 18
3.2.3 ความสั่นสะเทือน
เกิดจากการสั่นเครื่องจักร เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ เช่น เครื่องเจาะถนน เลื่อยไฟฟ้า เครื่องตัดเหล็ก
รถแทรกเตอร์ รถบรรทุกฯ การสั่นสะเทือนแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ การสั่นสะเทือนเฉพาะจุด เช่น ข้อมือ
ุ
แขนขา ได้แก่ การขดเจาะถนน เลื่อยไฟฟ้าฯ และการสั่นสะเทือนทั่วร่างกาย เช่น การขับรถแทรกเตอร์
ผลของการสั่นสะเทือน ถ้าเป็นการสั่นเฉพาะที่อาจท าให้เนื้อเยื่อด้านแข็ง ปวดข้อ หลอดเลือด
ผิดปกติ ท าให้มือตาย หรือนิ้วซีด เรียกว่า “Raynaud ’s phenomenon” ท าให้เกิดอาการชา เสีย
ความรู้สึก นิ้วบางนิ้วใช้การไม่ได้ อาจท าให้เนื้อตายต้องตัดทิ้ง ถ้าเป็นการสั่นทั่วร่างกาย ท าให้ความ
ต้องการออกซิเจนเพมขึ้น ปอดท างานเพมขึ้น การสั่นสะเทือนมีผลต่อหลอดเลือด กล้ามเนื้อ ข้อต่อและ
ิ่
ิ่
ั
กระดูก อาจท าให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของกระดูก กล้ามเนื้อลีบ กระดูกสันหลังอกเสบ นอกจากนี้
อาจเกิดคลื่นไส้อาเจียน นอนไม่หลับ น้ าหนักลด หูชั้นในอักเสบ เป็นต้น
การควบคุมปองกัน
้
1) ที่แหล่งก าเนิด โดยออกแบบเครื่องจักรให้ลดความสั่นสะเทือน ใช้วัสดุหุ้มและบ ารุงเครื่องจักรอยู่
เสมอ 2) ที่ตัวบุคคล โดยใช้อปกรณ์ เช่น ถุงมือชนิดพเศษ ก าหนดระยะเวลาพก เช่น ครั้งละ 20
ั
ิ
ุ
นาที ทุกการท างาน 2 ชั่วโมง ใน 1 วันไม่ควรท างานกับเครื่องจักรที่มีความสั่นสะเทือนนานเกิน 2-
4 ชั่วโมง เป็นต้น
3.2.4 เสียง
เสียงเป็นพลังงานที่เกิดจากความสั่นสะเทือนของโมเลกุลของอากาศ การวัดระดับความดังของ
เสียง หมายถึง การวัดค่าความดังของคลื่นเสียงที่เปลี่ยนแปลงไปจากบรรยากาศปกติ (เดซิเบล) เสียงที่มี
ความสัมพนธ์ต่อการตอบสนองของหูคน (เดซิเบลเอ) ระดับความดังของเสียง ขึ้นอยู่กับปริมาณเสียง ขนาด
ั
ของห้อง วัสดุท าผนัง ระยะห่างจากผิวสะท้อน กฎหมายก าหนดมาตรฐานความปลอดภัยของเสียงในสถาน
ประกอบการไว้ ไม่เกิน 90 เดซิเบลเอ ในการท างาน 8 ชั่วโมง
ผลกระทบของเสียงต่อคน ขึ้นอยู่กับความเข้ม ชนิดของเสียง ระยะเวลาที่สัมผัสเสียง เสียงท าให้
เกิดความร าคาญ รบกวนการได้ยิน หูตึง จนถึงสูญเสียการได้ยินแบบถาวร
1) การสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราว (เกิดจากการฟงเสียงดังสม่ าเสมอ ต่อเนื่อง และมี
ั
ความเข้มมาก อาจถึง 100 เดซิเบลเอ หรือสูงกว่าปกติ)และกลับสู่ปกติภายใน 1-2 ชั่วโมง หรือ เป็นวันหลัง
หยุดสัมผัสเสียง
2) การสูญเสียการได้ยินแบบถาวร (เกิดจากการรับเสียงที่มีความเข้มสูงหลาย ๆ ปี)
ลูกจ้างอาจชินกับเสียง หูอื้อทีละน้อย จนไม่ได้ยิน ทั้งที่แก้งหูปกติ
การควบคุมปองกันและควบคุม
้
1) ที่แหล่งก าเนิด โดยการบ ารุงรักษาเครื่องจักร
2) ใช้วัสดุดูดซับเสียง ท าผนังกั้นระหว่างแหล่งก าเนิดเสียงกับคน
ุ
ั
3) ป้องกันที่คนท างาน โดยใช้อุปกรณ์ป้องกน เช่น ปลั๊กอดหู ใช้ที่ครอบหู ทดสอบการได้
ยินเป็นระยะ ๆ