Page 22 - (ร่าง)การพยาบาลอาชีวอนามัย
P. 22
3) การถ่ายอุจจาระ ในส่วนที่ไม่ละลายและไม่ดูดซึม
4) ทางเหงื่อ
5) ทางน้ าตา
6) ทางอื่น ๆ เช่น น้ าลาย น้ านม
อันตรายและพิษของสารเคม จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความมีพิษ (Toxicity) ถ้าถูก
ี
น าไปใช้โดยไมค านึงถงหลักความปลอดภัย อาจเกิดอันตรายทั้งระดับเฉียบพลันและเรื้อรัง
่
ึ
อันตรายจากสารเคมจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับองค์ประกอบที่ส าคัญ ดังนี้
ี
1) คุณสมบัติทางกายภาพ เช่น ขนาด รูปร่าง
2) คุณสมบัติทางเคมีแต่ละสารแตกต่างกัน
3) ปริมาณของสารที่ได้รับ
4) ระยะเวลาที่ได้รับ
5) อายุของบุคคลที่ได้รับสาร
6) เพศ
7) ความต้านทานส่วนบุคคล
8) มาตรการป้องกันอันตรายจากสารเคมี
หลักการป้องกันและควบคุมอันตราย
ิ
ั
1. การป้องกันที่แหล่งก าเนิด เป็นการป้องกันอนดับแรกที่ต้องพจารณา เพราะป้องกนที่ต้นเหตุ
ั
ั
และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ได้แก่ แยกกระบวนการผลิตที่เป็นอนตราย การปิดแหล่งของสารเคมี ติดตั้ง
ระบบดูดอากาศเฉพาะที่ ใช้สารเคมีที่มีพิษน้อยกว่าและบ ารุงรักษาอุปกรณ์ให้มีสภาพดีไม่รั่วซึม
2. การป้องกันที่ทางผ่านของสารเคมี เป็นหลักการล าดับที่สองที่น ามาพิจารณา (ถ้าไม่สามารถ
หาสารเคมีที่มีพิษน้อยกว่ามาแทนได้) โดย
1)ให้บุคคลห่างจากสารเคมีมากที่สุด
2) ติดตั้งระบบดูอากาศออกให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทดี
3) ดูแลความสะอาดและความเป็นระเบียบของที่ท างาน ลดการสะสมของสารเคมี
4) ตรวจสารเคมีในสิ่งแวดล้อม เพื่อดูค่าความเข้มข้นว่าอยู่ในระดับปลอดภัย
3. การป้องกันที่ตัวบุคคลเป็นหลักการล าดับสุดท้ายเพราะประสิทธิภาพต่ า ยากแก่การปฏิบัติ
ั
ึ
เนื่องจากลูกจ้างมักไม่ปฏิบัติเพราะร าคาญและอดอดขณะสวมใส่ แต่ค่าใช้จ่ายจะต่ ากว่า 2 วิธีแรก และมัก
ั
ท าร่วมกับวิธีอน การป้องกันที่ตัวบุคคล คือ การใช้เครื่องป้องกันอนตรายส่วนบุคคล เช่น หน้ากาก ถุงมือ
ื่
ื่
ิ
ั
ถุงเท้า รองเท้า แว่นครอบหน้าฯลฯ การให้ความรู้เพอให้ทราบถึงอนตราย และพษของสารเคมี รวมถึงวิธี
ื่
ป้องกันที่ถูกต้อง ลดชั่วโมงการท างานกับสารเคมีที่เป็นอันตรายให้สั้น หมุนเวียนผู้ปฏิบัติงาน เพอให้ลูกจ้าง
ั
มีระยะพกจากการสัมผัสสารเคมี ท าให้ร่างกายขับสารเคมีออกจากร่างกาย การตรวจสุขภาพของ
ผู้ปฏิบัติงาน ควรท าก่อนเข้าท างาน และติดตามเป็นระยะๆ เมื่อพบความผิดปกติต้องรีบแก้ไข
