Page 7 - สมัยประชาธิปไตย
P. 7
ประวัติศาสตร์ ม. ๓ หน่วยการเรียนที่ ๔ ประวัติศาสตร์ไทยสมัยประชาธิปไตย ๖
ขนานนามว่า “พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ” มีตราช้างเป็นเครื่องหมาย ซึ่งหมายถึงเป็นของชาวไทยทุกคน เมื่อจัดพิมพ์
เสร็จแล้วได้แจกจ่ายไปตามมหาวิทยาลัยและหอสมุดนานาชาติทั่วโลก
การประกวดแต่งหนังสือสอนพระพุทธศาสนาส าหรับเด็ก หนังสือที่ได้รับพระราชทานรางวัลจะจัดพิมพ์เพื่อเผยแผ่และ
แจกจ่าย ในพระราชพิธีวันวิสาขบูชา เป็นประจ าทุกปี
ด้านสังคม
ลักษณะชนชั้นทางสังคมหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สภาพของบุคคลได้เปลี่ยนไปอันเนื่องมาจากระบบการ
ปกครอง โดยมีสภาพพอสรุปได้ดังนี้
พระมหากษัตริย์ ทรงอยู่ในต าแหน่งประมุขของประเทศ ไม่สามารถใช้อ านาจสิทธิ์ขาดอย่างระบอบสมบูรณาญาสิทธิ
ราช เพราะต้องบริหารราชการภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยใช้อ านาจบริหารทางรัฐบาล ใช้อ านาจนิติบัญญัติทางรัฐสภา ใช้
อ านาจตุลาการทางศาล
พระบรมวงศานุวงศ์ บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ ถูกห้ามยุ่งเกี่ยวทางการเมือง อ านาจที่เคยได้รับในสมัย
สมบูรณาญาสิทธิราชย์ถูกยกเลิกโดยสิ้นเชิง และให้ปฏิบัติตนตามกฎหมายเหมือนประชาชนโดยทั่วไป
ขุนนาง ข้าราชการยังคงมีบทบาททางการปกครองบ้านเมือง แต่เป็นบุคคลรุ่นใหม่ที่ได้รับการศึกษามาจากประเทศ
ทางตะวันตก ในระยะแรก ฐานันดรและราชทินนามของขุนนางยังคงมีอยู่ แต่ขุนนางทุกคนต้องปฏิบัติตนให้ถูกต้อง
ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ
ราษฎร มีสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ สามารถประกอบอาชีพ ตามความต้องการ ตาม
ความรู้ความสามารถของแต่ละบุคคล
ด้านการศึกษา
ในสมัยนี้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีนโยบาย ที่สนับสนุนการศึกษาอย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าจะประสบกับ
ปัญหาเศรษฐกิจก็ตาม พระองค์ตัดทอนรายจ่ายของแผ่นดินหลายประการแต่ไม่ทรงตัดรายจ่ายด้านการศึกษาเลย
เพราะพระองค์ต้องการให้ประชาชนมีความรู้ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยให้มากขึ้น พระองค์โปรดฯให้
ทุนการศึกษาส าหรับผู้ที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ และจัดสรรงบประมาณให้แก่การศึกษาภายในประเทศถึงปีละ ๓
ล้านบาท แทนการเก็บเงินบ ารุงการศึกษาจากราษฎร
การขยายตัวทางการศึกษา ตามประกาศของคณะราษฎร์ ได้ก าหนดให้ การศึกษา เป็นหนึ่งในหลักหกประการ ในการ
บริหารประเทศ แสดงว่ารัฐบาลให้ความส าคัญทางด้านการศึกษา โดยขยายขอบเขตการศึกษาให้กว้างขวางขึ้นกว่าเดิม
ทั้งในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษาและอุดมศึกษารวมทั้งปรับปรุงคุณภาพในทุกระดับให้ดียิ่งขึ้น
แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. ๒๔๗๕ มีจุดมุ่งหมายที่ส าคัญคือ
ให้พลเมืองได้รับการศึกษาพอควรแก่อัตภาพของตน คือ พอแก่ภูมิปัญญาและทุนทรัพย์จัดการศึกษาทั้ง ๓ ส่วนให้
พอเหมาะกัน กล่าวคือ จริยศึกษา อบรมให้มีศีลธรรมอันดีงาม เห็นประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนตัว
พุทธิศึกษา ให้มีปัญญา ความรู้ ความสามารถพลศึกษา ฝึกหัดให้เป็นผู้มีร่างกายแข็งแรง มีพลานามัยสมบูรณ์ มีน้ าใจ
ผู้สอน ครูจิราพร พิมพ์วิชัย