Page 138 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 138
ประวัติศาสตร์จานเดียว
ทุนทรัพย์ เพราะการส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐนั้นต้องเสียค่า
ธรรมเนียม แม้จะเล็กน้อยมากแต่สำาหรับคนพม่าโดยส่วนใหญ่ก็ยังถือว่าหนัก
หนาอยู่ เมื่อเทียบกับการเรียนที่วัดที่ไม่เสียเงินเลย ถึงอย่างนั้นเพื่ออนาคต
ที่มั่นคง คนพม่าจึงยอมกัดฟันส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐให้ได้
แต่ข้อเสียของการเรียนในโรงเรียนรัฐคือสร้างความห่างเหินกับพุทธ
ศาสนา เด็กน้อยไม่อาจซาบซึ้งในพระธรรมได้เหมือนสมัยก่อน แม้พวกเขา
จะไม่ได้หันไปนับถือคริสต์ตามความตั้งใจของอังกฤษ แต่ระยะห่างของพุทธ
ศาสนากับเด็กๆ ก็ทำาให้ผู้ปกครองเริ่มวิตกอยู่บ้าง
ความสัมพันธ์ระหว่างครูกับศิษย์ในโรงเรียนรัฐก็มีปัญหา ครูทำา
หน้าที่สอนหนังสือเสมือนเป็นงานรับจ้าง โดยที่ไม่ได้ผูกพันเหมือนการเรียน
กับพระสงฆ์ สอนเสร็จก็เป็นอันจบ ไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อีกทั้งยังปราก
ฎว่ามีการปฏิบัติต่อกันอย่างเหลื่อมล้ำาระหว่างนักเรียนที่นับถือศาสนาคริสต์
กับพุทธ จนเกิดความขัดแย้งขึ้นหลายต่อหลายครั้ง พาลไปถึงการก่อหวอด
ประท้วงและนัดหยุดเรียน
ถึงอย่างนั้นคนพม่าที่พอจะมีทรัพย์ก็พยายามส่งเสียให้บุตรหลาน
ของตนร่ำาเรียนสูงๆ โดยส่งมาเรียนในย่างกุ้ง อินเดีย หรือกระทั่งทุ่มทุนส่ง
ไปเรียนที่ลอนดอน เพราะโอกาสในการเข้ารับราชการนั้นมีมาก ข้าราชการ
กลายเป็นงานที่มีเกียรติและรายได้งาม หนุ่มสาวชาวพม่าจึงขวนขวายหา
ทางเข้ารับราชการมากขึ้น
แต่การปฏิบัติต่อคนพม่าอย่างไม่เท่าเทียมยังปรากฎให้เห็นอยู่
แม้ว่าอังกฤษจะเปิดโอกาสให้คนพม่าเข้ารับราชการได้ แต่ก็ยังได้รับการ
ปฏิบัติเสมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง ข้าราชการพม่าที่อังกฤษแต่งตั้งนั้นไม่ได้มี
อำานาจสิทธิ์ขาดใดๆ กระทั่งการปกครองในระดับท้องถิ่น ข้าราชการพม่าเริ่ม
ไม่พอใจที่เห็นว่าพวกตนได้รับเงินเดือนและสิทธิพิเศษที่ด้อยกว่าชาวอังกฤษ
ที่ทำางานในตำาแหน่งเดียวกัน เว้นเสียแต่จะไม่รับราชการและหันมาประกอบ
๑๓๐