Page 46 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 46
ประวัติศาสตร์จานเดียว
นายที่ติดตามไปนั้นก็คงต้องมีสั่นกันบ้างเหมือนกัน แต่พระองค์กลับนิ่งเฉย
ตรัสแก่ผู้ทำาพิธีว่า “ช่างพวกมอญมันประไร เจาะให้ดี หูข้าสำาคัญกว่าพวก
มอญนัก”
ทำาพิธีเสร็จพระองค์ก็นำาทัพกลับตองอูหน้าตาเฉย ไม่มีทหารมอญ
สักคนที่กล้าบุกเข้าไป เห็นว่าทหารมอญตัวสั่นกันด้วยซ้ำาไปเมื่อได้เห็นตัว
จริงของพระองค์ จากนั้นมาชื่อเสียงของพระองค์ก็ยิ่งลือลั่นเป็นที่เกรงขาม
ไปทั่วแผ่นดิน จากนั้นพระองค์จึงประกอบพิธีราชาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ทรง
พระนามว่า พระเจ้าตะเบงชเวตี้
คนไทยนั้นคุ้นเคยกับพระองค์เป็นอย่างดี แต่เมื่อพูดถึงพระองค์
แล้วก็จะอดเอ่ยถึงอีกชื่อหนึ่งไม่ได้ ซึ่งบุคคลผู้นี้จะมีบทบาทสำาคัญต่อแผ่น
ดินพม่าในกาลต่อมา นั่นคือ จะเด็ด แม่ทัพคนสนิท เป็นบุตรของแม่นมของ
พระองค์ พระองค์รักจะเด็ดเสมือนพี่ชายและในฐานะเพื่อนสนิทคู่พระทัย
ภายหลังจะเด็ดลักลอบมีความสัมพันธ์กับพระขนิษฐาของพระองค์ ซึ่งมี
ความผิดถึงขั้นประหารชีวิต ถึงตอนนี้ใครๆ ต่างก็จับตามองแล้วว่าพระองค์
จะตัดสินพระทัยอย่างไร
ฝ่ายจะเด็ดนั้นก็ใจเด็ดไม่น้อย เมื่อความผิดปรากฎแทนที่จะหนีไป
เขากลับยอมรับโทษแต่โดยดี เขากล่าวว่าไม่ใช่เรื่องผิดที่ชายหนุ่มจะรักหญิง
สาว แต่ที่ผิดคือการเสียสัตย์ต่อน้ำาพิพิฒน์สัตยาที่ให้ไว้กับพระเจ้าอยู่หัว สุด
ยอดไหมล่ะ
สุดท้ายแล้วพระองค์เลือกที่จะฝืนกฎมณเฑียรบาลโดยยกให้แม่ทัพ
หนุ่มขึ้นเป็นเจ้าเสียเลย ให้ตำาแหน่งเป็น กยอดินนรธา และยกพระพี่นางให้
แต่งงานด้วย แน่นอนว่าพระองค์ใช้วิธีปรึกษาเสนาบดีผู้ใหญ่ทั้งหลายแทนที่
จะตัดสินใจด้วยพระองค์เองเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งแน่ล่ะว่าใครจะกล้าขัดพระทัย
แต่ที่ทำาเช่นนี้ก็เพื่อป้องกันคำาครหาและเป็นการรักษาประเพณีของราชสำานัก
เอาไว้ การตัดสินพระทัยครั้งนี้ยิ่งทำาให้จะเด็ดเพิ่มความจงรักภักดีแก่พระองค์
๓๘