Page 47 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 47

ประวัติศาสตร์จานเดียว




            และพระองค์ก็ยิ่งเป็นที่รักใคร่ของราษฎรเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า


                                    ********************



                    นโยบายของพระเจ้าตะเบงชเวตี้คือต้องการกำาจัดมอญเพื่อยึดเมือง
            ท่าต่างๆ  สำาหรับทำาการค้า  ทางฝั่งอังวะนั้นไม่น่ามีปัญหาเพราะรอแค่เวลา

            ล่มสลายเท่านั้น  พวกไทยใหญ่ที่ครองอังวะอยู่นั้นมิได้สามัคคีกันสักเท่าไหร่
            ยิ่งเมืองแปรก็แยกตัวออกจากอังวะแล้วด้วย  แม้ว่าเจ้าเมืองแปรนั้นยังเป็น
            มิตรกับฝ่ายมอญอยู่ แต่หากมอญแตกเมื่อใด อังวะก็คงล่มตาม คิดสะระตะ
            แล้วพระองค์ก็เลือกที่จะเข้าถล่มหงสาวดีของมอญก่อน
                    อย่างที่เล่าไปตอนต้นว่าพระองค์เคยเสด็จไปทำาพิธีเจาะพระกร

            รณถึงกรุงหงสาวดีมาแล้ว   ดังนั้นพระองค์จึงไม่ค่อยเกรงกลัวทัพของพวก
            มอญสักเท่าไหร่  แม้จะต้องเหนื่อยสักหน่อยด้วยทางข้างมอญนั้นได้ทหาร
            โปรตุเกสมาช่วยรบ  แต่ก็ไม่อาจต้านทานกำาลังทัพของพระเจ้าตะเบงชเวตี้ไว้

            ได้  ประกอบกับทัพน้ำาที่คุมมาโดยแม่ทัพจะเด็ดที่ตอนนี้ได้รับตำาแหน่ง  บุเรง
            นอง รุกเข้าตีประสานกันจนสามารถเอาชนะได้ชัยในที่สุด
                    ภายหลังจากที่หงสาวดีแตกแล้ว  พระองค์กลับมิได้เผาทำาลายหรือ
            เข่นฆ่าชาวมอญเลย     กลับคืนตำาแหน่งให้แม่ทัพและขุนนางมอญเช่นเดิม
            แม่ทัพมอญคนไหนยอมจำานนแต่โดยดีก็พระราชทานอภัยโทษเพราะเป็น

            นโยบายของพระองค์ที่ต้องการจะรวมแผ่นดินเข้าด้วยกันอีกครั้งเหมือนสมัย
            พุกาม  หาได้ต้องการทำาลายล้างมอญให้สิ้นซาก  จะเหลือก็แต่เพียงเมาะตะ
            มะที่ชาวมอญที่นั่นยังคงไม่ยอมแพ้

                    ความพยายามโอนอ่อนของพระองค์ไม่เป็นผล เจ้าเมืองเมาะตะมะ
            ประกาศตนเป็นกษัตริย์มอญพระองค์ใหม่และเตรียมทัพรับศึกกับพระเจ้าตะ
            เบงชเวตี้ พระองค์กริ้วมาก สั่งจัดทัพใหญ่หมายจะเหยียบเมาะตะมะให้ราบ



                                                                        ๓๙
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52