Page 78 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 78
ประวัติศาสตร์จานเดียว
ก็เอามารับใช้ในราชสำานักเสียมากมาย ขณะเดียวกันก็ยังมีเรื่องให้ปวดพระ
เศียรจากการคิดกบฎไม่หยุดหย่อนของพวกมอญ กับความที่เอาแน่เอานอน
ไม่ได้ของพวกอังกฤษกับฝรั่งเศสที่เดาไม่ออกว่าจะเข้ากับฝ่ายไหนกันแน่
หลังเสร็จศึกที่ชายแดน พระองค์ก็เริ่มแผนถล่มเมืองสิเรียมที่มี
ฝรั่งเศสถือครองอยู่ สงครามช่วงนั้นเริ่มหันมาใช้อาวุธของตะวันตกมากขึ้น
ทัพของพระองค์ล้อมเมืองสิเรียมอยู่เกือบปีก็ยังตีเอาไม่ได้ กระสุนดินปืนก็
เริ่มร่อยหรอ อังกฤษที่เป็นพันธมิตรกันก็ไม่ส่งกระสุนมาให้ พระองค์จึงเริ่ม
ระแวงว่าอังกฤษกำาลังมีแผนอะไรบางอย่างอยู่รึเปล่า อีกทางหนึ่งก็เริ่มเกรง
ว่ากองเรือฝรั่งเศสจากอินเดียจะเข้ามาช่วยเมืองสิเรียม พระองค์จึงตัดสิน
พระทัยตั้งหน่วยกล้าตายเล็กๆ ขึ้นมากองหนึ่ง พลีชีพปีนกำาแพงเมืองเข้าไป
เปิดประตูเมืองให้ทัพหลวงบุกเข้าไปให้ได้ หน่วยพลีชีพนี้เมื่อตอนตั้งขึ้น
ว่ากันว่ามีอยู่ ๙๓ นาย สุดท้ายเหลือรอดมาไม่ถึง ๒๐ นาย แต่ก็นับว่าคุ้ม
เพราะเพียงแค่ ๓ วันต่อมา เมืองสิเรียมก็แตกกระจุย
ช่วงท้ายของศึกเมืองสิเรียม ทัพอังกฤษส่งอาวุธและเครื่องกระสุน
มาทันเวลาพอดี พระองค์จึงคลายพระทัยและหันมาญาติดีกับอังกฤษอีก
ครั้งหนึ่ง จนถึงทำาสนธิสัญญาด้านการค้าด้วย ข้อที่สำาคัญๆ คือ พระองค์
ยกแหลมนีเกรสและบางส่วนของเมืองพะสิมให้อังกฤษใช้เป็นที่ตั้งของบริษัท
อินเดียตะวันออก พ่อค้าของบริษัทอินเดียตะวันออกสามารถทำาการค้าได้ทั่ว
พระราชอาณาจักรโดยไม่มีข้อกีดกันใดๆ ซึ่งบริษัทอินเดียตะวันออกที่ว่านี้ดู
เผินๆ ก็เหมือนบริษัทที่ทำาการค้าทั่วไป เพียงแต่บริษัทนี้ได้รับการสนับสนุน
จากรัฐบาลอังกฤษ หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลอังกฤษ
นั่นเอง ดังนั้นนอกเหนือจากการทำาการค้าแล้ว บริษัทนี้ยังมีอิทธิพลมากมาย
ต่อประเทศที่เข้าไปทำาการค้าด้วย เสมือนเป็นการปูทางเพื่อสถาปนา
จักรวรรดิอังกฤษ (British Empire)
ในทางกลับกัน อังกฤษก็ต้องตอบแทนพม่าด้วย ได้แก่ ต้องส่งอาวุธ
๗๐