Page 79 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 79
ประวัติศาสตร์จานเดียว
และกระสุนดินปืนมาให้กองทัพพม่าทุกปี และต้องสัญญาว่าจะไม่ให้การช่วย
เหลือใดๆ ต่อประเทศที่เป็นศัตรูของพม่าในทุกกรณี อันนี้เป็นการแสดงออก
อย่างแน่ชัดเลยว่าพม่าเลือกเป็นมิตรกับอังกฤษมากกว่าฝรั่งเศสที่ตอนนั้น
กำาลังขับเคี่ยวกับครองความเป็นใหญ่ในภูมิภาคนี้
พอปราบเมืองสิเรียมได้ พระองค์ก็เริ่มจะกำาราบมอญให้เด็ดขาด
เสียที แต่การกำาราบของพระองค์ไม่ใช่เป็นการเข่นฆ่าให้อาสัญสิ้นเผ่าพันธุ์
พระองค์พยายามอย่างที่สุดที่จะซื้อใจชาวมอญให้ได้ เพราะทรงทราบดีว่า
ไม่อาจปราบมอญได้ด้วยกำาลัง ทัพหลวงของพระองค์ยกไปบุกเมืองพะโค
(หงสาววดี) พญาทละเจ้าเมืองพะโคสู้ไม่ได้ก็ส่งทีมพระสงฆ์ออกมาขอตั้งโต๊ะ
เจรจา แต่ก็ยังมีอีกฝ่ายหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับพญาท ละ ถึงขั้นสู้รบกันเองและ
ปลดพญาทละลงจากบัลลังก์ พระเจ้าอลองพญาตัดรำาคาญด้วยการบุกเข้า
ยึดเมืองมันซะเลย แต่พระองค์ก็ยังยึดนโยบายเดิมคือการซื้อใจ โดยยกให้
ขุนนางมอญคงดูแลบ้านเมืองต่อไปตามเดิมดังนั้นเมืองพะโคตลอดจนแผ่น
ดินพม่าทางตอนใต้โดยส่วนใหญ่ก็ยอมอยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์
คองบองเสียเกือบทั้งสิ้น
เหตุการณ์ดูเหมือนจะสงบแต่ก็กลับวุ่นวายขึ้นมาอีกจากพวกมอญ
(อีกแล้ว) คือไม่รู้จะอะไรกันนักหนา น่าเห็นใจพระเจ้าอลองพญาขึ้นมา
เหมือนกันที่อุตส่าห์วางใจให้ปกครองกันเอง เผลอหน่อยเดียวก็แว้งกัดเข้าให้
ซะอีก คือพวกมอญทางใต้ลุกขึ้นก่อการกบฎอีกรอบหลังจากที่พระเจ้าอลอง
พญาต้องวิ่งวุ่นไปปราบมณีปุระทางชายแดนอินเดียอีกรอบ พวกมอญทาง
ใต้เห็นสบโอกาสจึงแข็งเมืองไล่ฆ่าฟันปล้นสะดมภ์ชาวพม่า ที่สำาคัญคือพวก
อังกฤษที่อยู่แถบแหลมนีเกรสดันผสมโรงเอากะเขาด้วย ทั้งที่รัฐบาลพม่า
อุตส่าห์ยินยอมยกพื้นที่บางส่วนให้แล้วพระเจ้าอลองพญาทราบความจึงเร่ง
ยกทัพลงมาจัดการ พอเห็นว่าสู้ไม่ได้พวกกบฎมอญก็ชิ่งหนีเข้ามาไทยทันที
แสบไหมล่ะ
๗๑