Page 90 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 90
ประวัติศาสตร์จานเดียว
แต่ก็ดันมีก้างชิ้นใหญ่ขวางอยู่ นั่นคือ ฝรั่งเศส
พม่ากับอังกฤษนั้นประเดี๋ยวก็ดีกันประเดี๋ยวก็ทะเลาะกันมาช้านาน
ในสมัยพระเจ้าอลองพญานั้นถึงกับมีการทำาสัญญาค้าขายระหว่างกันในนาม
รัฐบาลทั้งสองชาติ ถึงขั้นที่ทรงยกพื้นที่บางส่วนของแหลมนีเกรสและเมือง
พะสิมให้อังกฤษใช้เป็นที่ตั้งบริษัทอินเดียตะวันออกและใช้เป็นอู่ต่อเรือ แต่ก็
ไม่วายมีเหตุให้ทะเลาะกันอีก แล้วก็ดีกันอีก สลับกันไปมาเช่นนี้
อังกฤษกับฝรั่งเศสเล่นชิงเชิงกันอยู่มิใช่เฉพาะบนแผ่นดินพม่า ทั้ง
สองชาติก็ยังแย่งความเป็นใหญ่ในภาคพื้นยุโรปด้วยเช่นกัน อังกฤษนั้นกลัว
ว่าพม่าจะเข้าข้างฝรั่งเศสและอาจจะใช้พม่าเป็นอู่ต่อเรือมารบกับตน อังกฤษ
จึงส่งคณะทูตมาเจรจาการค้ากับราชสำานักพม่าเพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์
ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติอาจจะไปได้ด้วยดีหากไม่เป็นเพราะ
ความแตกต่างของวัฒนธรรม ราชสำานักพม่าก็ไม่ใคร่จะชอบใจวัฒนธรรม
อย่างตะวันตก ส่วนผู้แทนจากอังกฤษก็ไม่ค่อยพอใจกับประเพณีของพม่า
แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังสงวนท่าทีกันอยู่ มีบ้างบางครั้งที่เกินเลยจนมีการกระทบ
กระทั่ง แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่พอจะคุมกันได้อยู่
ชาวยะไข่ยังคงมองหาโอกาสก่อกบฎอยู่เนืองๆ ในปี พ.ศ. ๒๓๔๒
ก็เกิดกบฎขึ้นอีก ทหารพม่าพยายามจะข้ามเขตแดนเพื่อจับกุมกลุ่มกบฎที่
หนีเข้าไปในเขตของอังกฤษ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหลายต่อหลายหน ฝ่าย
กบฎก็อาศัยอังกฤษเป็นเกราะกำาบังยามพลาดพลั้ง อังกฤษเองก็ทำาเป็นไม่รู้
ไม่เห็น ส่วนพม่าก็เข้าใจว่าอังกฤษนั่นล่ะที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวาย ข้าหลวง
อังกฤษไม่ยอมส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพราะต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศ
แต่เขาก็ระมัดระวังที่จะไม่ก่อสงครามเนื่องจากแผ่นดินแม่ในยุโรปก็กำาลัง
ตบตีอยู่กับฝรั่งเศส และที่อินเดียเอง อังกฤษก็ยังไม่ได้ครอบครองแบบเสร็จ
เสียทีเดียว จึงไม่อยากจะก่อปัญหากับพม่า
แต่ปัญหาตามชายแดนระหว่างพม่ากับอังกฤษ (อินเดีย) ก็ยังคงคุ
๘๒