Page 86 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 86
ประวัติศาสตร์จานเดียว
ทำาให้พม่าต้องพะวงสองทาง แต่อีกทางหนึ่งก็ต้องขอบคุณพม่าเหมือนกัน
เพราะถ้าพม่าไม่ยันจีนเอาไว้ ไม่แน่ว่าเอเชียอาคเนย์อาจจะเสร็จจีนก็ได้เช่น
กัน
จากสนธิสัญญาสงบศึกที่มหาสีหสุระทำากับจีนครั้งนั้น ก่อให้เกิด
ความแตกแยกในหมู่แม่ทัพนายกองและเสนาบดี การตัดสินใจของมหา
สีหสุระอาจดูเหมือนเป็นการข่มพระเจ้ามังระอยู่ในที จนเมื่อพระเจ้ามังระ
ประกาศยกให้ เจ้าชายสินคูเป็นรัชทายาท ก็ยิ่งทำาให้อิทธิพลของมหาสีหสุ
ระเด่นชัดขึ้นไปอีก เนื่องจากเป็นพ่อตาของเจ้าชายรัชทายาท การเขม่นกัน
ในกองทัพและราชสำานักทำาให้พวกมอญทางตอนใต้ลุกขึ้นมากบฎจากการ
ปลุกปั่นของมอญในไทย แม้ว่าจะถูกปราบลงได้ในเวลารวดเร็ว แต่ก็ทำาให้
ชาวมอญหลายพันคนหนีไปร่วมกับพระเจ้าตากสินที่กรุงธนบุรี และตั้งหลัก
ปักฐานเป็นชาวมอญในไทยมาจนถึงปัจจุบัน
ปี พ.ศ. ๒๓๑๘ หลังเสร็จศึกจีนและมณีปุระ พระเจ้ามังระทรงแต่ง
ตั้งในมหาสีหสุระเป็นแม่ทัพเข้ามาตีกรุงธนบุรี แต่ครั้งนี้ทัพพม่าไม่ค่อยเข้ม
แข็งและกระตือรือร้นเท่าใดนัก อาจเพราะความขัดแย้งกันเองประการหนึ่ง
และข่าวลือถึงพระสุขภาพของพระเจ้ามังระอีกประการหนึ่ง และที่แน่นอน
คือฝ่ายไทยไม่ได้อ่อนแอดังแต่ก่อน ด้วยเรามีแม่ทัพผู้แข็งแกร่งคือ พระยา
จักรี ในการพักรบครั้งหนึ่ง มหาสีหสุระนัดหมายขอพบพระยาจักรีเพื่อชื่นชม
ความสามารถในฐานชายชาติทหาร พระยาจักรีเชื่อมั่นในน้ำาใสใจจริงของ
มหาสีหสุระว่าจะไม่มีกลลวง มหาสีหสุระด้เอ่ยปากแสดงความชื่นชมว่า ท่าน
นี้ลักษณะสมเป็นกษัตริย์ ต่อไปภายหน้าท่านจะได้เป็นเจ้าแผ่นดิน และก็เป็น
ดั่งคำาของแม่ทัพพม่าเมื่อต่อมาพระยาจักรีได้สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้น
และปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ทรงพระนาม พระบาทสมเด็จพระพุทธยอด
ฟ้าจุฬาโลก ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี
ศึกกับไทยยังไม่ไปถึงไหน พระเจ้ามังระก็เสด็จสวรรคต แม่ทัพใหญ่
๗๘