Page 87 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 87
ประวัติศาสตร์จานเดียว
มหาสีหสุระจึงต้องเลิกทัพกลับเพื่อช่วยค้ำาชูราชบัลลังก์ของรัชทายาทเจ้า
ชายสินคูซึ่งเป็นบุตรเขย น่าเสียดายที่พระเจ้าสินคูครองบัลลังก์ได้เพียงสิบปี
ก็ถูกลอบปลงพระชนม์ ในระหว่างนั้นพระองค์ได้ยุบกองทหารไปหลายกอง
ด้วยพยายามเอาใจราษฎรที่กำาลังเบื่อหน่ายกับสงคราม ส่วนพระองค์เองก็
กลับลุ่มหลงอยู่กับความสำาราญ ทำาให้เกิดการกบฎขึ้นภายในราชสำานัก
ความวุ่นวายภายในราชสำานักพม่าเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาหนึ่ง จน
สงบราบคาบลงเมื่อ พระเจ้าโพธิพญา หรือ พระเจ้าปดุง ขึ้นครองราชย์ใน
ปี พ.ศ. ๒๓๒๔ พระองค์ทรงแต่ตั้งในมหาสีหสุระดำารงตำาแหน่งมหาเสนาบดี
ทั้งที่ทรงทราบดีว่าแม่ทัพผู้เฒ่ามิใคร่จะลงรอยกับพระองค์นัก ต่อมามหาสีห
สุระจึงวางแผนล้มราชบัลลังก์โดยพยายามยกเอาเจ้านายอีกพระองค์หนึ่ง
ขึ้นครองราชย์แทน แต่แผนการก็ล้มเหลว คราวนี้พระเจ้าปดุงตัดสินพระทัย
สั่งประหารแม่ทัพผู้เฒ่าเสีย และจัดระบบระเบียบภายในราชสำานักครั้งใหญ่
เพื่อขจัดอิทธิพลเก่าๆ ให้หมดสิ้นไป
พระเจ้าปดุงหมายพระทัยที่จะรวบอำานาจการปกครองไว้ที่ส่วน
กลาง ทรงริดรอนอำานาจทางการทหารจากแม่ทัพที่มีทีท่าจะกระด้าง
กระเดื่อง ไม่เพียงแต่การทหารเท่านั้น พระองค์ยังเข้ามามีบทบาทต่อการ
ปกครองของสงฆ์อีกด้วย ทรงริดอำานาจของสมเด็จพระสังฆราช โดยตั้ง
สังฆสภาขึ้นมาเพื่อมิให้อำานาจเด็ดขาดอยู่ที่สังฆราชเพียงผู้เดียว
ในช่วงต้นรัชกาลพระเจ้าปดุงต้องเผชิญกับกลุ่มกบฎหลายครั้ง ที่
หนักสุดเห็นจะเป็นฝีมือของมหาสีหสุระนี่ล่ะ แต่ก็ยังมีเสี้ยนหนามทิ่มแทงให้
ระคายเคืองพระองค์อยู่เนืองๆ การปราบปรามของพระองค์นั้นจัดว่าเข้าข่าย
ควรเซ็นเซอร์ เพราะเลือดนองแดงฉานไปทั่วพระนครกรุงอังวะ แม้พระองค์
เองจะมีนิสัยเด็ดขาดเพียงใดก็ยังหดหู่พระทัยอยู่ไม่น้อย เมื่อเหตุการณ์
สงบดีแล้วจึงมีรับสั่งให้ย้ายราชธานีใหม่เสียเลยเป็นการเอาเคล็ด บ้างก็ว่า
เป็นการหนีกลุ่มกบฎซะให้สิ้นเรื่องสิ้นราว โดยทรงตั้งเมืองอมรปุระขึ้นเป็น
๗๙