Page 88 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 88

ประวัติศาสตร์จานเดียว




           ราชธานีแห่งใหม่ในปี พ.ศ. ๒๓๒๖

                                   ********************



                   ศึกกับไทยยังไม่จบลงง่ายๆ  หลังจากที่พระเจ้าปดุงขึ้นครองราชย์
           ก็สามารถพิชิตเมืองยะไข่ได้  การกำาชัยเหนือยะไข่นี้ไม่ธรรมดา  เพราะแต่

           ไหนแต่ไรมา  ยะไข่คือของกินยากสำาหรับพม่า  พม่าไม่เคยรวบเอายะไข่ไว้ใน
           กำามือได้เด็ดขาดเลยสักครั้ง  การชนะในศึกยะไข่จึงทำาให้พระเจ้าปดุงมั่นใจ
           มากจนถึงหมายพระทัยจะยึดเอากรุงรัตนโกสินทร์เสียให้ได้ในคราวเดียวกัน
           เพราะหลังจากสิ้นรัชกาลพระเจ้ามังระแล้ว  พม่าก็แทบจะไม่ได้ทำาศึกกับไทย
           อีกเลย

                   ปี พ.ศ. ๒๓๒๘ พระเจ้าปดุงทรงแต่งทัพขนาดมหึมาหวังจะเหยียบ
           กรุงรัตนโกสินทร์ให้พินาศเหมือนเมื่อครั้งเผากรุงศรีอยุธยา  แต่คราวนี้ฝ่าย
           ไทยไม่ได้เคี้ยวง่ายเหมือนก่อน พระองค์จึงหมายจะพิชิตชัยด้วยกำาลังไพร่พล

           ทรงจัดทัพบุกเข้ามาพร้อมกันถึง ๙ ทัพ ๕ เส้นทาง เป็นศึกครั้งใหญ่ที่สุดเท่า
           ที่ไทยกับพม่ารบกัน  เป็นมหายุทธที่คนไทยรู้จักกันในดีในชื่อ  “สงคราม  ๙
           ทัพ”
                   กองทัพของพระเจ้าปดุงครั้งนี้ไพร่พลรวมกันกว่า  ๑  แสน  ๕  หมื่น
           นาย ข้างฝ่ายไทยมีกำาลังน้อยกว่าถึงครึ่งหนึ่ง ทัพขนาดมหึมาของพม่าอาจดู

           น่าเกรงขามแต่ก็มีข้อบกพร่องในเรื่องของการจัดการ  อย่าลืมว่าสมัยโน้นยัง
           ไม่มีมือถือนะครับ  ต้องใช้ม้าเร็วส่งใบบอกไปตามค่ายต่างๆ  ไหนจะเสบียง
           กรัง  ไหนจะระบบสาธารณสุข  ไหนจะระบบการสื่อสาร  ผู้คนมากมายขนาด

           นี้ย่อมเกิดปัญหาแน่นอน  อีกทั้งข้างไทยที่แม้จะมีกำาลังพลน้อยกว่าแต่ทว่า
           ก็แข็งแกร่ง  รวมใจเป็นหนึ่งเดียว  ไม่ยอมแพ้พม่าเป็นครั้งที่สามแน่นอน  ทัพ
           พม่าแม้จะมีมากสักปานใดก็ไม่อาจเอาชนะได้  แถมยังต้องถูกตีแตกเสียค่าย



           ๘๐
   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93