Page 85 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 85

ประวัติศาสตร์จานเดียว




                    การตัดสินใจครั้งนี้ทำาเอาพระเจ้ามังระเคืองพระทัยไม่น้อย  เพราะ
            ทรงเห็นว่าพม่ากำาลังได้เปรียบ  น่าจะเอาชนะกองทัพจีนได้โดยง่าย  ฝ่ายจีน
            เมื่อถอนทัพกลับก็ละเลยสัญญา  ไม่ส่งเชลยคืนพม่า  ยิ่งทำาให้พระเจ้ามังระ

            พิโรธหนักขึ้น  ก็เลยไม่ส่งเชลยจีนคืนเช่นกัน  โชคดีที่มหาสีหสุระไม่โดนพระ
            อาญาหนักเพราะเกิดกบฎที่มณีปุระขึ้นเสียก่อน  จึงต้องเร่งยกทัพไปปราบ
            จึงถือเป็นการไถ่โทษไปในที
                    สงสัยกันใช่ไหมว่ามหาสีหสุระท่านนี้เป็นใคร  ทำาไมแม่ทัพนายกอง

            ถึงเกรงอกเกรงใจ    และยังได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้ตัดสินใจการ
            ใหญ่เสียอีก  คนไทยคุ้นเคยกับท่านในชื่อ  อะแซหวุ่นกี้  แม่ทัพใหญ่ที่มีส่วน
            สำาคัญในการถล่มกรุงศรีอยุธยานั่นไง
                    แม่ทัพมหาสีหสุระ  สร้างผลงานเอาไว้มากเมื่อครั้งตีกรุงศรีอยุธยา

            จนเมื่อทำาศึกกับจีนก็ยังมีบทบาทสำาคัญ ทำาให้แม่ทัพคนอื่นๆ เกรงใจไม่น้อย
            รวมถึงพระเจ้ามังระด้วย  การปราบมณีปุระหรือที่พม่าเรียกว่า  เมืองกระแซ
            แม่ทัพผู้นี้ก็คือหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำาคัญ  เมื่อเสร็จศึกจึงได้รับการยกให้เป็น
            กระแซหรืออะแซหวุ่นกี้ หมายถึงเจ้าเมืองกระแซนั่นเอง



                                    ********************


                    อาจเป็นเพราะพม่าต้องหันไปทำาศึกกับจีนทำาให้ไทยสามารถฟื้น

            ตัวได้รวดเร็ว  อาจเป็นเพราะพระปรีชาสามารถของ  สมเด็จพระเจ้าตากสิน
            มหาราช  หรืออาจเป็นเพราะทัพพม่าไม่ได้แข็งแกร่งจริงจังเหมือนเมื่อครั้ง
            พระเจ้าบุเรงนอง  ทำาให้ไทยกลับสู่เอกราชได้ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี
            สมเด็จพระเจ้าตากสิน  ก็สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี  ในปี  พ.ศ.  ๒๓๑๐

            โดยที่พม่าก็ไม่ได้หันมาสนใจมากนักเพราะติดพันศึกกับจีนนั่นเอง
                    ไทยเราจึงอาจต้องขอบคุณจีนอยู่เหมือนกันที่หาเรื่องเข้าตีพม่า



                                                                        ๗๗
   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90