Page 18 - โครงการทงเลม สมบรณ2_Neat
P. 18
6. ประเทศสมาชิกต้องแจ้งให้ทราบถึงมาตรการที่จะออกบังคับใช้ ตามกรอบที่ กําหนด โดย
กฎหมายนี้ก่อนที่จะนําไปใช้บังคับ ยกเว้นมาตรการทางภาษี
7. ประเทศสมาชิกจะต้องดูแลมิให้ปริมาณโลหะหนักของตะกั่ว แคดเมียม ปรอท และเฮกซา
วาไลน์โครเมียม ในบรรจุภัณฑ์ หรือส่วนประกอบของบรรจุภัณฑ์เกินกว่าที่ กําหนด ดังต่อไปนี้
7.1 600 ppm. โดยน้ำหนักภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ประเทศสมาชิกออก กฎหมาย
บรรจุภัณฑ์และของเสียจากบรรจุภัณฑ์ (ต้องดําเนินการก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2539)
7.2 250 ppm. โดยน้ำหนักภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ประเทศสมาชิกออก กฎหมาย
บรรจุภัณฑ์และของเสียจากบรรจุภัณฑ์
7.3 100 ppm. โดยน้ำหนักภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ประเทศสมาชิกออก กฎหมาย
บรรจุภัณฑ์และของเสียจากบรรจุภัณฑ์
8. ประเทศสมาชิกจะต้องจัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์และของเสียจาก บรรจุภัณฑ์ ให้
เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อให้สามารถติดตามการดําเนินงานให้เป็นไปตาม วัตถุประสงค์ของ
กฎหมายนี้ และใช้เป็นข้อมูลการจัดการของเสียจากบรรจุภัณฑ์ของสหภาพยุโรป
9. ประเทศสมาชิกจะต้องรายงานผลการปฏิบัติตามกฎหมายนี้ ต่อคณะ กรรมาธิการสหภาพ
ยุโรปอย่างสม่ำเสมอ
10. ประเทศสมาชิกต้องมั่นใจว่า ผู้ใช้บรรจุภัณฑ์จะให้ข้อมูลที่จําเป็นเกี่ยวกับ การจัดบรรจุ
ภัณฑ์และของเสียจากบรรจุภัณฑ์
11. ระบบเครื่องหมายบนบรรจุภัณฑ์ที่จะระบุถึงวัสดุที่ใช้และฐานข้อมูล จะมี การปรับปรุงให้
ทันต่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคนิค
12. มีการผ่อนผันการใช้บังคับกับบรรจุภัณฑ์ ที่ใช้กับสินค้าที่ผลิตมาก่อนวันที่ กฎหมายนี้ใช้
บังคับ โดยภายใน 5 ปี ประเทศสมาชิกสามารถวางตลาดสินค้าที่ผลิตมาก่อนวันที่ กฎหมายนี้ใช้บังคับ
และเป็นไปตามกฎหมายภายในของแต่ละประเทศได้
ในปี 2542 คณะกรรมการสหภาพยุโรปได้ประกาศข้อตัดสิน (Decision) ที่ 19991177/EC ลง
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2542 กําหนดเงื่อนไขสําหรับการสลายตัวของพลาสติกที่เกี่ยวกับระดับโลหะ ที่ใช้ใน
การบรรจุภัณฑ์ และที่ตกค้างจากการบรรจุภัณฑ์ ตามกฎระเบียบกลางดังกล่าว มีสาระสําคัญสรุปได้
ดังนี้
การบรรจุภัณฑ์ 15