Page 27 - โครงการทงเลม สมบรณ2_Neat
P. 27

บทสรุปการบรรจุภัณฑ์ของสินค้า


                            การบรรจุภัณฑ์เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับทุกภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตในภาค
                     อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม เกษตรกรรม หรือการให้บริการ ล้วนต้องใช้บรรจุภัณฑ์เป็นส่วน ประกอบ

                     ในการส่งเสริมการขายสินค้าของตน แต่ทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ย่อมมีโทษแฝงอยู่ด้วย เนื่องจากบรรจุ

                     ภัณฑ์ใช้แล้วก่อให้เกิดปัญหาขยะ โดยในปี 2543 ปริมาณขยะมูลฝอยทั่วประเทศมี ประมาณ 13.8 ล้าน
                     ตัน เป็นขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นในเขตเมืองและกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 56 หรือ ประมาณ 7.8 ล้านตัน

                     ในจํานวนนี้เป็นของเสียบรรจุภัณฑ์และวัสดุเหลือใช้ที่สามารถนํากลับมาใช้ ใหม่ได้ถึงร้อยละ 39 ของ

                     ปริมาณขยะมูลฝอยทั่วประเทศ หรือประมาณ 5.4 ล้านตัน ประกอบด้วย บรรจุภัณฑ์ใช้แล้วในประเทศ
                     2.6 ล้านตัน และจากการนําเข้า 2.8 ล้านตัน การกําจัดขยะ บรรจุภัณฑ์เหล่านี้ก่อให้เกิดการสูญเสียด้าน

                     เศรษฐกิจและสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งที่ใน ความเป็นจริงหากมีระบบการจัดการที่ดี ขยะบรรจุ

                     ภัณฑ์และวัสดุเหลือใช้เหล่านั้น เช่น กระดาษ แก้ว พลาสติก โลหะ เหล็กและอะลูมิเนียม สามารถนํา
                     กลับมาใช้ซ้ําหรือแปรรูปใช้ใหม่ได้อีก


                            สําหรับในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว ต่างพยายามลดปริมาณบรรจุภัณฑ์ลง
                     หรือกําหนดประเภทของบรรจุภัณฑ์เพื่อลดของเสียจากบรรจุภัณฑ์ ดังที่สหภาพยุโรปได้กําหนด

                     กฎระเบียบเกี่ยวกับ Packaging and Packaging Waste โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและลด

                     ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขอบเขตของกฎหมายครอบคลุมบรรจุภัณฑ์และของเสียจากบรรจุภัณฑ์ ทุก
                     ชนิด โดยกําหนดไม่ให้มีปริมาณโลหะหนักของตะกั่ว แคดเมียม ปรอท และเฮกซา


                     แคดเมียม ปรอท และเฮกซาวาไลน์ โครเมียม ในบรรจุภัณฑ์หรือส่วนประกอบของบรรจุภัณฑ์เกินกว่า
                     600 ppm. 250 ppm. และ 100 ppm. โดยน้ําหนัก ภายใน 2 ปี 3 ปี และ 5 ปี ตามลําดับ รวมทั้ง

                     กําหนดระบบการเรียกคืน การ เก็บรวบรวมบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้ว และการกําหนดอัตรารีไซเคิล โดย

                     กําหนดภายใน 5 ปี นับแต่วัน ที่กฎหมายใช้บังคับ สมาชิกแต่ละประเทศจะต้องออกกฎหมายเรียกคืน
                     บรรจุภัณฑ์และของเสีย บรรจุภัณฑ์ให้ได้อย่างต่ําร้อยละ 50 อย่างสูงร้อยละ 65 โดยน้ําหนัก และบรรจุ

                     ภัณฑ์ที่เรียกคืน อย่างต่ําร้อยละ 50-65 ต้องนํามารีไซเคิลอย่างน้อยร้อยละ 25-45 โดยน้ําหนัก อีกทั้ง

                     บรรจุภัณฑ์ แต่ละประเภทควรมีองค์ประกอบที่นํามารีไซเคิลไม่ต่ํากว่าร้อยละ 15 โดยน้ําหนัก และมีข้อ
                     ผ่อนผัน ว่าการเรียกคืนบรรจุภัณฑ์และของเสียบรรจุภัณฑ์ ต้องไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2548 และยังมี

                     ข้อกําหนดเกี่ยวกับระบบเครื่องหมายบนบรรจุภัณฑ์ที่ระบุวัสดุที่ใช้ นอกจากนี้คณะกรรมการสหภาพ

                     ยุโรป ยังได้กําหนดเงื่อนไขการสลายตัวของพลาสติกที่เกี่ยวกับระดับโลหะที่ใช้ใน บรรจุภัณฑ์ และที่
                     ตกค้างจากบรรจุภัณฑ์ โดยให้ใช้กับการบรรจุภัณฑ์ทุกรายการ







                                                                                            การบรรจุภัณฑ์ 24
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32