Page 34 - ED 211
P. 34

นอกจากน าปลาร้าไปแลกข้าวแลกเกลือแล้ว  ชาวบ้านยังน าปลาที่ยังไม่ได้แปรรูปหรือที่เรียกว่าปลาสดไป

                   แลกข้าวแลกเกลืออีกด้วย  โดยน าไปแลกกับ“หมู่เฮ็ดนา”ซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ห่างไกลจากแม่น้ ามูนและจับ

                   ปลาไม่เป็น  เมื่อคนหาปลาส่งข่าวกันว่าปลาขึ้นมาจากแม่น้ าโขงแล้ว  ชาวบ้านเหล่านี้จะน าข้าวน าเกลือใส่
                   เกวียนลากมาแลกปลาสด  ปลาร้า  กับคนหาปลาริมแม่น้ ามูน  ส่วนปลาขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านเรียกว่าปลา

                   เศรษฐกิจนั้น  ชาวบ้านมักขายให้แม่ค้าที่ล่องเรือตระเวนรับซื้ออยู่ในแม่น้ า  หรือน ามาขายกับแม่ค้าที่มารอ

                   รับซื้ออยู่ริมฝั่ง  ดังนั้นคนหาปลาแห่งล าน้ าสายนี้จึงมีข้าวเต็มยุ้งฉาง  เพียงพอบริโภคตลอดทั้งปี  และมี
                   ปลารวมทั้งสัตว์น้ าอื่น ๆ ที่สามารถจับมาเป็นอาหารได้ทุกมื้อ  นอกจากสัตว์น้ านานาชนิดที่มีอยู่อย่างอุดม

                   สมบูรณ์ในแม่น้ าเป็นแหล่งอาหารประจ าวัน  เป็นสิ่งที่ใช้แลกข้าวแลกเกลือไว้บริโภค  เป็นแหล่งเงินสดเงิน

                   ออมแล้ว  ชาวบ้านยังพึ่งพา“ป่าบุ่งป่าทาม”ซึ่งเป็นป่าที่อยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ าในฐานะที่เป็นแหล่งอาหาร
                   และแหล่งรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ อีกด้วย  ป่าบุ่งป่าทามหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าป่าทามนั้นเป็นพื้นที่ชุ่มน้ า

                   (Wetlands) ประเภทหนึ่งที่เกิดจากสภาพการไหลคดเคี้ยวกัดเซาะของแม่น้ ามูน  ป่าทามเป็นพื้นที่ที่มี

                   พรรณพืชนานาชนิดขึ้นอยู่มากมาย  รวมทั้งยังอุดมไปด้วยสัตว์นานาชนิด  ทั้งที่อาศัยอยู่บนบกและอาศัย
                   อยู่ในพื้นที่ที่มีน้ าแช่ขัง  ซึ่งทุกครอบครัวสามารถใช้ประโยชน์เพื่อการยังชีพได้  อาหารที่ชาวบ้านได้จากป่า

                   ทาม  จึงมีทั้งพืชผักนานาชนิด  เช่น เห็ดชนิดต่าง ๆ ทั้งเห็ดโคน  เห็ดปลวก  เห็ดขอน เห็ดผึ้ง หน่อไม้

                   ผลไม้  และผักต่าง ๆ เช่น  ผักแว่น  ผักหนาม ผักหวาน ผักอีฮิน  และสัตว์ต่าง ๆ  เช่น  แลน  กระแต
                   กระรอก  กระต่าย หนู งู กิ้งก่า นก แมลง เต่า ปลา หอย กบ ปู กุ้ง เป็นต้น  ด้วยระบบนิเวศของแม่น้ ามูน

                   ชาวบ้านจึงมีอาหารหลากหลายประเภท  ทั้งสัตว์น้ า  สัตว์บก สัตว์ครึ่งน้ าครึ่งบก และพืชผักที่ขึ้นตาม

                   ธรรมชาติอย่างอุดมสมบูรณ์  นอกจากนั้นในช่วงฤดูแล้งของทุกปี   เมื่อแม่น้ ามูนลดระดับลง  ชาวบ้านยัง
                   ได้พื้นที่ลาดชันริมตลิ่งส าหรับเป็นที่ปลูกผักนานาชนิดอีกด้วย  พื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสม

                   ส าหรับท าการเกษตรแม้ว่าจะเป็นการปลูกผักในฤดูแล้งก็ตาม  เพราะมีความอุดมสมบูรณ์จากดินตะกอนที่
                   น้ าพัดพามาทับถมกัน  เมื่อน้ าลดระดับลง  ชาวบ้านจะเริ่มปลูกพืชผักในที่ดินที่จับจองและเก็บผลผลิต

                   ก่อนที่ที่ดินเหล่านี้จะถูกน้ าท่วมตามฤดูกาลอีกครั้ง  ดังนั้น  เมื่อน้ าลดระดับลงพื้นที่ลาดชันริมตลิ่งจึงถูก

                   แปรเป็นแหล่งปลูกผักตลอดริมแม่น้ ามูน  พืชที่ปลูกมีหลายชนิด  เช่น  แตงกวา  ถั่วฝักยาว  ฟักทอง  มัน

                   เทศ  มะเขือเทศ  มะเขือ  กระเทียม  ผักกาดหอม  ผักชี  หัวหอม  ผักบุ้ง  น้ าเต้า  และพริกไทย
                   ชาวบ้านยังพึ่งพาป่าทามที่อยู่ริมแม่น้ ามูนในฐานะที่เป็นแหล่งสมุนไพรที่ใช้เป็นยารักษาโรคด้วย  ชาวบ้าน

                   สามารถเก็บสมุนไพรจากพืชและส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้ที่ขึ้นอยู่มากมายในป่าทาม    เช่น  ก้านเหลือง
                   ตะโกน้ า  ทับน้ า  ฝ้ายน้ า  เสียวน้อย  แตงแซว  กระเจียวลาย  กระโดน  ขมิ้น  ขมิ้นเครือ  เข็มแดง  เข็ม

                   ขาว  มุยแดง  เสลดพังพอน  เพื่อน ามาใช้เป็นยารักษาโรคหลายประเภท   ไม้ใช้สอยที่จ าเป็นในการ

                   ด ารงชีวิต  เช่น ฟืนและไม้ไผ่   ก็หาได้จากป่าทาม  ไม้ไผ่เป็นไม้ที่น ามาท าเครื่องใช้สอยที่จ าเป็นหลาย
                   อย่าง  ไม่ว่าจะเป็นกับดักสัตว์  เครื่องมือจับปลาหลายชนิด  เช่น  ตุ้ม  สุ่ม (ใช้จับปลาใต้น้ า) ลาน  จั่น

                   ข้อง หรือท าภาชนะใส่อาหาร  เช่น  กระติบใส่ข้าวเหนียว  ตะกร้า  เป็นต้น  และไม้ไผ่ที่เป็นไม้ท่อนยัง






                                                       เอกสารประกอบการสอนรายวิชากระบวนทัศน์ทางการศึกษา พรใจ ลี่ทองอิน | 28
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39