Page 11 - วารสารสุขภาพ สำนักอนามัย ปีที่ 6 ฉบับที่ 3
P. 11
วิธีแก้ไขปัญหาฟันห่าง
1. การอุดปิดช่องว่างระหว่างฟัน โดยการใช้วัสดุอุดฟันที่มีสีเหมือนฟัน อุดเติมขนาดของฟัน
แต่ละซี่ให้ใหญ่ขึ้นจนชิดกัน วิธีนี้สามารถปิดช่องฟันหน้าที่ห่างกันได้อย่างสวยงาม โดยที่ไม่ต้องมีการกรอฟันเลย
อาจจะมีเพียงการกรอผิวเคลือบฟันเพื่อลดความนูนของสันฟันลงเพียงเล็กน้อย เพื่อให้เกิดความสวยงามดูสมดุล
กันของฟันทั้งสองซี่ แต่มีข้อเสียคือ ต้องระมัดระวังที่จะไม่ใช้ฟันหน้า กัดแทะอาหารแข็ง เช่น เมล็ดถั่วต่างๆ หรือ
ผลไม้แข็งๆ เพราะสามารถท�าให้วัสดุอุดฟันนั้นหลุดได้ รวมถึงปัญหาเหงือกอักเสบในบริเวณนั้นได้ถ้าดูแลเรื่อง
ความสะอาดไม่ดีเพียงพอ
2. การท�าเคลือบฟันหรือวีเนียร์ (Veneer) วิธีนี้ทันตแพทย์จะท�าการกรอฟันทางด้านหน้า
ออกบางส่วน แล้วใช้วัสดุพอร์ซเลน (Procelain) หรือวัสดุอุดสีเหมือนฟัน (Composite Resin) มาปิดทับลงบน
ด้านหน้าฟันที่กรอไว้ โดยจะยึดวีเนียร์ติดกับตัวฟันด้วยวัสดุยึดติดที่เฉพาะ วิธีนี้เหมาะส�าหรับฟันหน้าที่ไม่ต้องรับ
แรงกระแทกใดๆ และไม่แนะน�าให้ท�าในผู้ป่วยที่มีประวัติการนอนกัดฟัน
3. การท�าครอบฟัน จะใช้กับกรณีที่ฟันมีขนาดเล็กมากหรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาฟันห่างได้ด้วย
การอุดปิดช่องว่างระหว่างฟัน (Composite Resin) หรือวีเนียร์ (Veneer) ได้
4. รักษาด้วยการจัดฟัน เพื่อเคลื่อนฟันและปิดช่องฟันห่าง นอกจากนั้นยังช่วยแก้ไขฟันซ้อนเก
ในต�าแหน่งอื่นๆ การจัดฟันมีทั้งแบบใส่เครื่องมือถอดได้และแบบติดเครื่องมือ
การดูแลสุขภาพฟัน ป้องกันปัญหาฟันห่าง
• การป้องกันท�าได้โดยการแปรงฟันให้สะอาด ใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธีและสม�่าเสมอ
• ส�าหรับการรักษาโรคเหงือก ท�าได้โดยการขูดหินปูน ส�าหรับผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรง จ�าเป็นต้อง
ท�าการเกลารากฟัน เพื่อก�าจัดหินปูนที่สะสมอยู่ใต้เหงือก จะท�าให้การอักเสบลดลง เหงือกรัดแน่นกับรากฟันมากขึ้น
และการโยกของฟันลดลง ซึ่งส่งผลให้การเคลื่อนต�าแหน่งของฟัน จนเกิดช่องฟันห่างลดลงด้วย
• ไม่ใช้ลิ้นดุนฟัน
• ดูแลสุขภาพฟันของเด็กเล็กไม่ให้ติดนิสัยดูดนิ้ว และดูแลรักษาอนามัยช่องปากอย่างเหมาะสม
• พบทันตกรรมเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจ�าอย่างน้อยทุก 6 เดือน
“ฟันห่าง....ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม หากได้รับการแก้ไข นอกจากจะช่วย
ให้ยิ้มอย่างมั่นใจแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพให้คุณ”
วารสารสุขภาพ 11
ส�านักอนามัย