Page 125 - IGNITE Thailand HD|HRD Episode 1
P. 125
IGNITE Thailand |123 THAILAND
ED HRD
พัฒนาการศึกษา พัฒนาทรัพยากรมนุษย
...เพราะการพัฒนาสมองสร้าง
ได้ในเด็กทุกคน ทุกแห่ง ไม่ต้องใช้เงิน
ลงทุนสูง ขอเพียงแค่เปลี่ยนวิธีการ
เลี้ยงดูอย่างเข้าใจ
'การบ้าน'
ทางสมอง คือการสอนโดยใช้โจทย์เป็นฐาน ซึ่งการพัฒนา ในเด็กอายุ 2-6 ปี จ�านวน 2,965 คน กระจายทุกภูมิภาค
EF สร้างได้ในเด็กทุกคน ทุกแห่ง เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการ ของประเทศ พบว่า มีเด็กเกือบ 30% มีปัญหาพฤติกรรม
เลี้ยงดู เช่น อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน เล่นให้เยอะ ท�างาน ด้านการคิดเชิงบริหารน้อยกว่าเกณฑ์เฉลี่ย ซึ่งเด็กเหล่านี้
บ้านให้มากเพื่อให้รู้จักควบคุมตนเอง จะมีปัญหาในการก�ากับตนเอง ท�าโดยไม่คิด ใจร้อนรอคอย
ไม่เป็น วอกแวกง่าย ไม่สามารถท�างานยากให้ส�าเร็จ
เช่นเดียวกับ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช นายกสภา
มหาวิทยาลัยมหิดล และประธานกรรมการมูลนิธิ นางเพ็ญพรรณ จิตตะเสนีย์ ผู้อ�านวยการ สสส.
สดศรี-สฤษดิ์วงศ์ สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อ กล่าวว่า เด็กที่มีปัญหาทางพฤติกรรม เพราะไม่ถูกพัฒนา
สังคม กล่าวบรรยายพิเศษเรื่อง EF กับการเรียนรู้ใน ทักษะสมองส่วนหน้า ในระยะยาวจะเป็นอุปสรรคต่อความ
ศตวรรษที่ 21 ว่า การปล่อยให้เด็กได้เรียนรู้ตามธรรมชาติ ส�าเร็จด้านการเรียน การท�างาน การอยู่ร่วมกันในสังคม
ถือเป็นการฝึกฝนการใช้ทักษะ EF ได้สูง เนื่องจากเป็นการ รวมทั้งมีโอกาสเกิดปัญหาสังคมอื่น ๆ ตามมา แนวทาง
เรียนรู้แบบ Active Learning คือเด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง ส�าคัญคือ ระบบการสอนและการดูแลเด็กปฐมวัย ไม่ควร
ผ่านการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ท�าให้เกิดกระบวนการ เร่งเรียน เขียน อ่านเพียงอย่างเดียวเพราะท�าให้เด็กขาด
ไตร่ตรองสะท้อนความคิดจนสามารถน�าไปปรับใช้ใน โอกาสในการฝึกคิด ฝึกตัดสินใจ และฝึกก�ากับตนเองไป
สถานการณ์อื่น ๆ ได้ ดังนั้น การเรียนรู้แบบท่องจ�า หรือ สู่เป้าหมาย ครูผู้ดูแลเด็กปฐมวัย ควรมีความรู้ใน
การรับความรู้ที่ส�าเร็จมาแล้วจึงไม่ถือเป็นการฝึกทักษะ EF การสามารถสังเกตและประเมินพัฒนาการเด็ก ตลอดจน
การส่งเสริมการใช้ทักษะ EF จึงเป็นการเปิดประตูการเรียน จัดการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก
รู้สู่ศตวรรษที่ 21
...เพราะการพัฒนาสมองสร้างได้ในเด็กทุกคน
ส�าหรับสถานการณ์ EF ของเด็กไทย จากรายงาน ทุกแห่ง ไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ขอเพียงแค่เปลี่ยนวิธีการ
ผลพัฒนาการด้านการคิดเชิงบริหารในเด็กปฐมวัย ตุลาคม เลี้ยงดูอย่างเข้าใจ
2559 โดยศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ และสถาบัน
แห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว หรือการวัด EF ที่มา : http://www.thaihealth.or.th