Page 55 - สุขศึกษา พลศึกษา ม.ต้น
P. 55

55



                                       ควรมีหลักปฏิบัติในการคบเพื่อน  คือวัยรุนควรพิจารณากลุมเพื่อนที่คบวามีความ
                   ประพฤติเปนอยางไร  ถาเพื่อนคนใดประพฤติตนในทางไมดี  ก็ควรแนะนําและชักจูงใหเขาประพฤติในทางที่ดี
                   รูจักปฏิเสธและไมหลงเชื่อคําชักชวนหรือปฏิบัติตามเพื่อนที่มีความประพฤติไมดี  เชน  ชวนใหหนีเรียนเที่ยว

                   กลางคืน  เลนการพนัน  เสพสารเสพติด  เปนตน  โดยในการพูดปฏิเสธนั้นใหปฏิบัติดังนี้  พูดดวยน้ําเสียงหนัก
                   แนนมั่นคง  ควรบอกความรูสึกดีกวาบอกเหตุผลหรือขออาง  เพราะความรูสึกเปนเรื่องสวนตัวของแตละบุคคล

                   ถาบอกเหตุผลหรือขออาง  เพื่อนอาจจะนําเหตุผลอื่นมาลบลางใหปฏิเสธไมได และรูจักแนะนําและชักชวนเพื่อน
                   ปฏิบัติกิจกรรมที่ดีและมีประโยชน  เชน  เลนกีฬา  เลนดนตรี  เรียนภาษาตางประเทศ  เรียนคอมพิวเตอร  เขารวม
                   ในกิจกรรมพัฒนาตาง ๆ ในชุมชน  เปนตน  โดยเลือกตามความสนใจและความเหมาะสมของตนเอง  จะไดเปน

                   การใชเวลาวางใหเกิดประโยชน
                                 2.2  หลักทั่วไปในการผูกมิตร

                                       หลักทั่วไปในการผูกมิตร  มีแนวทางในการปฏิบัติ  ดังนี้
                                       1)  รูจักยอมรับคําติชม  เชน  รับฟงความคิดเห็นหรือคําวิพากษวิจารณของผูอื่น
                   เกี่ยวกับตัวเราเองดวยความเต็มใจ  เปนธรรม  ไมลําเอียงเขาขางตนเอง  และสามารถควบคุมอารมณได

                                       2)  รูจักอารมณขัน  มองโลกในแงดี  และควรเปนคนยิ้มงาย  เปนบุคลิกลักษณะที่ดี
                   และเปนเสนหที่ทําใหผูพบเห็นหรือคบคาสมาคมดวยรูสึกชมชอบ  เกิดความสุขและความสบายใจ  นับวาเปนสิ่ง

                   สําคัญยิ่งอยางหนึ่งที่จะนําไปสูการตอนรับและความรวมมือที่ดี
                                       3)  รูจักออนนอมถอมตน  ไมคุยโออวดความสามารถของตน  ไมพูดจาดูถูกหรือยกตน
                   ขมผูอื่น  และรูจักยอมรับขอบกพรองหรือความดอยของตนในดานตาง ๆ
                                       4)  รูจักรับผิดชอบตอหนาที่  เชน  หนาที่สําคัญของนักเรียนคือเรียน  ครูมีหนาที่ให

                   การศึกษาอมรมแกนักเรียน  นักศึกษา
                                       5)  รูจักประนีประนอม  เมื่อเกิดปญหาหรืออุปสรรคขึ้น  ควรจะมีการประนีประนอม

                   หรือรอมชอมกัน  ซึ่งเปนวิธีการหนึ่งที่คนเราอาจตกลงกันไดอยางยุติธรรมและมีเหตุผล
                                       6)  รูจักเอาใจเขามาใสใจเรา  ใหคิดเสมอวาอะไรก็ตามที่เราเองไมชอบ  ไมตองการให
                   ผูอื่นกระทําตอเรา  ก็จงอยากระทําสิ่งนั้นตอบุคคลอื่น  และถาตองการใหบุคคลอื่นกระทําสิ่งใดตอเราก็จงกระทํา

                   สิ่งนั้นตอเขา
                                       7)  รูจักใหกําลังใจคนอื่น  เชน  ยกยองใหเกียรติ  ใหกําลังใจผูอื่นดวยการชมเชย  รูจัก

                   แสดงความชื่นชมยินดีตอความสําเร็จของเพื่อนรวมหอง  เพื่อนรวมงาน  เปนตน
                                       8)  รูจักไววางใจคนอื่น  คือ  รูจักไวเนื้อเชื่อใจคนอื่นบางตามสมควร  เพราะคนอื่นอาจ
                   มีความดอยเกินไปในดานตาง ๆ ไดเชนเดียวกับเรา  นอกจากนี้บางครั้งการประเมินคาความสามารถของผูอื่นดอย

                   เกินไป  อาจนํามาซึ่งความผิดหวังไดดวย
                                       9)  รูจักรวมมือกับคนอื่น  เชน  การใหความรวมมือกับหมูคณะในการประกอบ
                   กิจกรรมตาง ๆ ของสวนรวมดวยความเต็มใจ  เพราะผูที่เห็นแกตัวหรือเอาแตไดยอมเปนที่รังเกียจของสังคม

                                       10)  รูจักเคารพสิทธิของผูอื่น  เชน  ไมควรใชทรัพยสิ่งของของผูอื่นโดยพลการ  ไม
                   กาวกาย  หรือละเมิดสิทธิซึ่งเปนผลประโยชนอันชอบธรรมของผูอื่น
                                 2.3  หลักในการสรางเสริมความสัมพันธอันดีกับกลุมเพื่อน

                                       หลักในการสรางเสริมความสัมพันธอันดีกับกลุมเพื่อน  มีแนวทางปฏิบัติ  ดังนี้
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60