Page 69 - ภาษาไทย ม.ต้น
P. 69
ห น า | 69
ภายนอก ความชื่นชมตามกระแสและความหลงผิด ความรักก็จะกอใหเกิดโทษ จึงเปนผูเปรียบเปรยวา
"ความรักทําใหคนตาบอด" ดวยพระราชนิพนธของพระบาทของสมเด็จพระมงกุฏเกลาเจาอยูหัวใน
เรื่องมัทนพาธา ซึ่งไดแสดงใหเห็นภาพของความลุมหลง อันเกิดจากความรักและทุกขสาหัสอันเกิดจาก
ความรักไดเปนอยางดี สมกับชื่อเรื่อง มัทนพาธา ที่แปลวา ความบาดเจ็บแหงความรัก
1.6 นําดวยการอธิบายความเปนมาของเรื่อง
เมื่อสัปดาหที่แลวขาพเจาไดไปรวมงานพระราชทานเพลิงศพของผูใหญทานหนึ่ง ทาน
เปนอดีตรองผูวาราชการจังหวัด จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ ศพของทานไดรับการบรรจุไวในโกศ
ขาพเจาจึงไดคนควาเรื่องนี้มาเปนความรูแกผูสนใจทั่วไป
1.7 นําดวยการบอกจุดประสงคของการเขียน
สามกก ที่ผูอานทั้งในประเทศจีนและในประเทศไทยรูจักกันดีนั้นเปนนวนิยาย
สวนสามกกที่เปนประวัติศาสตรมีคนรูนอยมาก แมแตคนจีนแผนดินใหญที่ไดเรียนจบขั้นอุดมศึกษา
แลวก็มีนอยคนมากที่รูบทความเรื่องนี้จึงขอเริ่มตนจากสามกกที่เปนประวัติศาสตร
2. การเขียนสวนเนื้อเรื่อง
เนื้อเรื่องเปนสวนสําคัญที่สุดของเรียงความ เพราะเปนสวนที่ตองแสดงความรู ความ
คิดเห็นใหผูอานทราบตามโครงเรื่องที่วางไว เนื้อเรื่องที่ตองแสดงออกถึงความรูความคิดเห็นอยาง
ชัดเจนมีรายละเอียดที่เปนขอเท็จจริงและมีการอธิบายอยางเปนลําดับขั้น มีการหยิบยกอุทาหรณ
ตัวอยาง ทฤษฎี สถิติ คํากลาวหลักปรัชญา หรือสุภาษิต คําพังเพย ฯลฯ สนับสนุนความรูความคิดเห็น
นั้น
เนื้อเรื่องประกอบดวยยอหนาตางๆ หลายยอหนาตามสาระสําคัญที่ตองการกลาวคือ เปรียบ
กันวาเนื้อเรื่องเหมือนสวนลําตัวของคนที่ประกอบดวยอวัยวะตางๆ แตรวมกันแลวเปนตัวบุคคล
ดังนั้นการเขียนเนื้อเรื่องถึงจะแตก แยกยอยออกไปอยางไร จะตองรักษาสาระสําคัญใหญของเรื่องไว
การแตกแยกยอยเปนเรื่องๆ ไปเพื่อประกอบสาระสําคัญใหญของเรื่องซึ่งเปรียบเหมือนตัวคนสมบูรณ
ในแตละยอหนาประกอบดวยสวนที่เปนเนื้อหา คือความรูหรือความคิดเห็นที่ตองการแสดงออก การ
อธิบายและอุทาหรณคือ การอางตัวอยาง ฯลฯ ที่สนับสนุนใหเห็นจริงเห็นจัง สวนสํานวนโวหารจะใช
แบบใดบาง โปรดศึกษาเรื่องสํานวนโวหารในหัวขอตอไปนี้
ตัวอยางการเขียนเนื้อเรื่องแตละยอหนา
“อํา” เปนเด็กชายตัวเล็กๆ อายุแค 12 ป ครั้งที่ลืมตาดูโลกไดแค 3 เดือน แมก็ทอดทิ้งไป...
สวนพอนั้นไมเคยรักและหวงใยอําเลย สิ่งเดียวที่มีคาที่สุดในชีวิตของพอคือ เฮโรอีน...ยา ..ลุง...ปา
และอา ตอกย้ําใหอําฟงเสมอวา “อยาทําตัวเลวๆ เหมือนพอแกที่ติดเฮโรอีนจนตาย” หรือ “กลัวแกจะ