Page 23 - Book
P. 23

ปัจเจกบุคคลว่าจะมองมันยังไง ว่าจะเข้าใจมันยังไง จะใช้มันยังไง จะสร้างประโยชน์จากมัน

                                 ยังไง คืองานของผมแสดงที่แล้วผมจะไปบังคับให้คนดูบอกว่ามีประโยชน์แบบนี้นะ มันก็
                                 ไม่ใช่ เป็นการให้เกียรติ ผมชอบงานศิลปะคือมันส่งเสริมให้เรามองความเป็นปัจเจก

                                 เหนือกว่าชุดความคิดที่คนอื่น ๆ คิดเหมือน ๆ กัน มันให้โอกาสคน มันให้สิทธิ มันให้เสรีภาพ

                                 กับคนในการตีความ
                    คุณณัฐพล     พอพูดถึงความเป็นปัจเจกนี้มันก็จะเหมือนการปฏิบัติในเชิงพุทธ ซึ่งมันเป็นปัจเจกจริง ๆ ถ้า

                                 เกิดว่าปฏิบัติมันก็จะรู้ได้ด้วยตัวเอง มันเป็นปัจจัตตัง เวทิตัพโพ ตนเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง แล้ว
                                 ถ้าอย่างนี้ในทางกลับกัน การท างานศิลปะเพื่อจะให้เป็นสื่อกลางเพื่อจะให้ผู้รับสารได้สารที่

                                 จะสื่อออกไป มันก็เป็นประสบการณ์ในเชิงปัจจัตตังหรือในเชิงส่วนปัจเจกเช่นกัน แล้วตรงนี้

                                 ครับพี่ต่อกับอจารย์วินคิดว่าสื่อตรงกลางตรงนี้ Function ของมันนี้สามารถสื่อสารในสิ่งที่
                                 ต้องการจะสื่อจริง ๆ ได้มากน้อยเท่าไหร่ ในฐานนะคนท างาน ผมเชื่อว่าอาจจะมีคนสงสัย

                                 เพราะผมเชื่อว่าคนท างานศิลปะทุกคนเคยตั้งค าถามค านี้ Function มัน Functional จริง ๆ
                                 ไหมกับการสื่อสารโดยใช้งานศิลปะ ? ก่อนจะเชื่อมันเราต้องเกิดความสงสัยก่อน

                    คุณธนญชัย  ก็อยู่ที่ผู้ให้กับผู้รับเนอะ ผู้รับเขาไม่ Get อะ เขาไม่เข้าใจเขาก็ไม่รับ แต่ถ้าเขา Get มัน

                                 Connect กันได้เขาก็รับ ส าหรับพี่มีอยู่แค่นั้นนะครับ เพราะฉะนั้นเขาจะเข้าใจมันมาก เขา
                                 จะรู้สึก เขาจะอธิบายมันได้ทุกอย่างเลยถ้ามัน Connect กันแล้วเนอะ แต่ปัญหามันก็คือว่า

                                 ทุกข์มันก็จะเกิดขึ้น ในฐานนะที่เป็นศิลปินก็คือ มีความคาดหวัง คาดหวังว่าคนจะเข้าใจแล้ว

                                 มันไม่เข้าใจ คือบางครั้งศิลปะมันต้องไม่คาดหวังว่าเขาจะเข้าใจ แต่เดี๋ยวมันก็จะมีคนเข้าใจ
                                 เนอะ ก็ประมาณนี้ แต่สื่อตัวนี้ไม่ต้องไปกังวล ในห้องนี้ไม่มีใครรับเดี๋ยวมันก็อาจจะมีคนที่

                                 Get ก็ได้ ไม่เป็นไร แต่มันขึ้นอยู่กับคนรับไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนส่ง
                    คุณณัฐพล     อาจารย์วินมองว่าไงครับ ?

                    ดร. วิชญ     เล่าจากความเป็นจริงเลยนะครับ มันเป็นปัญหาที่คณะจิตรกรรมมากเลย เพราะว่าตลอดมา

                                 หลาย ๆ ปีเรามักจะสอนนักศึกษาให้เอาตัวเองออกมา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ศิลปะมันคือการ
                                 น าเสนอความเป็นปัจเจก ปัญหาคือมันเอาออกมาแล้วมันไม่สื่อสาร คือเขาคงเข้าใจแบบ

                                 TIST (Artist) อะ ไม่ใช่บอกว่าสอนไม่ดีหรืออะไรไม่ดีนะครับ มันเป็นธรรมดาเมื่อเราต้องการ
                                 เร้าบางอย่าง เร่งบางอย่างให้มันเกิดความเป็นตัวตน มันก็จะโดนลดบางอย่าง ความเป็น

                                 อัตตากับอนัตตามันคือ Universal ใช่ไหมครับ พออะไรอัตตามาก ๆ ความเป็นอนัตตาก็จะ

                                 ลดลง ผมมีวิธีแก้ช่วงหลัง ลองดู ผมก็ไม่รู้มีดีหรือเปล่า หรือผมคิดถูกหรือเปล่า คือผมลอง
                                 เปลี่ยนจากค าว่า ‘ฉัน’ สอนเด็กน่ะแบบ ‘เห้ย แทนที่มึงจะคิดว่าตัวเอง คือ “ฉัน” น่ะ ลอง

                                 คิดว่าเป็น “เรา” ได้ไหม’ คือแทนที่จะมองว่าฉันคิดแบบนี้คนเดียว ฉันมองความงามแบบนี้
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28