Page 18 - mukdahansuksapub
P. 18

                                                                                                             18                  นครเวียงจันทน์จนสงบราบคาบ  กษัตริย์เวียงจันทน์จึงได้ปูนบําเหน็จโดยได้พระราชทานพระราชธิดาชื่อ   เจ้า                 นางช่อฟ้า ให้เป็นภรรยาในกาลต่อมา จึงได้ แต่งตั้งให้บุตรซึ่งเกิดจากพระศรีวรราชและเจ้านางช่อฟ้า รวม  ๔                 คนแยกย้ายกันไปตั้งบ้านตั้งเมืองทางดินแดนของลาวภาคใต้ คือ ตั้งเป็นเมืองวัง,เมืองเซโปน    แล้วแยกออกเป็น                 เมืองพิน,เมืองนองฯลฯ(ดินแดนของชาวผู้ไทยในแขวงสุวรรณเขตปัจจุบัน)จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๓เมื่อปราบปราม                 กองทัพของเจ้าอนุวงษ์เวียงจันทน์ซึ่งเป็นกบฏจนสงบราบคาบแล้วเพื่อมิให้เวียงจันทน์และญวนมีกําลังมารุกราน                 จึงให้กองทัพกรุงเทพฯสมทบกับกองทัพเมืองอุบลราชธานี,ยโสธร,กาฬสินธุ์,หนองหนองคาย,นครพนมและมุก                 ดาหารยกทัพข้ามโขงไปกวาดต้อนผู้คนทางฝั่งโขงตะวันออก(ดินแดนลาวในปัจจุบัน)ให้มาตั้งบ้านตั้งเมืองในฝั่ง                 โขงตะวันตกเช่นที่บริเวณเมืองสกลนค,นครพนมและมุกดาหาร ฯลฯ                                                ฉนั้นจังหวัดมุกดาหารปัจจุบันจึงมีประชากร ๑ ใน ๔เป็นชาวผู้ไทย  ส่วนมากจะอยู่ในท้องที่                 อําเภอคําชะอี,อําเภอหนองสูง      ตลอดทั้งมีอีกบางหมู่บ้านในท้องที่อําเภอเมือง,อําเภอดอนตาล,อําเภอดงหลวง,                 อําเภอนิคมคําสร้อย                                                                  ๓.กลุ่มไทยข่า  ไทยข่าหรือ บรู เป็นอีกกลุ่มชาติพันธ์หนึ่งในจังหวัดมุกดาหารมี                 ถิ่นกําเนิดเดิมอยู่ที่แขวงสุวรรณเขต,แขวงสาลวันและแขวงอัตปือของลาว   นักมานุษยวิทยาถือว่าชาวข่าเป็นชน                 เผ่าดั้งเดิมเผ่าหนึ่งในแถบลุ่มแม่นํ้าโขง  ซึ่งอาจจะสืบเชื้อสายมาจากขอมโบราณซึ่งเคยอยู่ในแถบถิ่นนี้มาก่อน                 ตั้งแต่อาณาจักรเจนละ ต่อมาอยู่ในอาณาจักรขอมและอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ซึ่งขอมเคยมีอิทธิพลครอบคลุมขึ้น                  มาถึงแล้วเสื่อมอํานาจลง  พวกข่าหรือบรูอยู่ในตระกูลเดียวกับขอมหรือมอญเขมร  ภาษาของข่าเป็นภาษาใน                 ตระกูลออสโตรอาเซียติค สาขามอญเขมร   ชาวข่ายังแบ่งแยกออกเป็นหลายเผ่าพันธุ์อีกเช่น ข่าย่าเหิน,ข่าบริเวณ                                                         ข่าสุ,ข่าตะโอย,ข่าสอก,ข่าสะปวน ฯลฯ เป็นต้น                                                                         ชาวข่ามิได้เรียกตัวเองว่า ข่า แต่เรียกตนเองว่า บรู ซึ่ง                                                         แปลว่าภูเขา มูลเหตุที่ชาวอีสานมักเรียกพวกบรูว่าข่าคงจะมาจาก                                                         คําว่า ข้าทาส  เพราะชาวอีสานมักเรียกพวกข้าทาส ข้า หรือ ข้อย                                                         แต่ชอบออกเสียงที่เป็นไม้โทกลายเป็นไม้เอก  คือคําว่า ข้า เป็น                                                         ข่า  เพราะว่าในอดีตผู้คนในแถบลุ่มแม่นํ้าโขงชอบไปจับพวกบ                                   ผู้ไทยในอดีต                                            หรือพวกข่ามาเป็นข้าทาส  จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๕ จึงประกาศเลิก                                                         ทาสและห้ามมิให้จับพวกข่ามาเป็นข้าทาสอีก                                                                   ในดินแดนเวียดนามตอนใต้ก็มีพวกข่าอยู่หลายหมู่บ้าน                                                          แต่ชาวเวียดนามเรียกข่าพวก มอย (Moi )  พวกข่าในสมัยโบราณ                                                         เคยมีประวัติว่ามีศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมที่สูงส่ง  มีความรู้ในการ                                                         ประดิษฐ์ของใช้ในการดํารงชีวิตเช่นการปั้นไหข่า, การปั้นและ                               ผู้ไทยจังหวัดมุกดาหารปัจจุบัน                    หล่อโลหะเช่นกลองมโหระทึก,นําหินมากรอฟันให้ราบเรียบ
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23