Page 19 - mukdahansuksapub
P. 19

                                                                                                             19                                                         ก่อนเครื่องมือทันตแพทย์สมัยนี้เสียอีกซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของข่า                                                         ชาวข่าดั้งเดิมมักจะมีผิวกายดําคลํ้าผมหยิกทั้งชายและหญิง   ใน                                                         อดีตชายข่าแต่งกายด้วยการนุ่งผ้าเตี่ยว  มีผมยาวประบ่าและนิยม                                                         ใช้ผ้าแดงผูกคล้องคอหรือโพกศรีษะ  ตามประวัติเล่าว่าเนื่องจาก                                                         บรรพบุรุษของพวกข่า    ได้ต่อสู้แย่งชิงถิ่นที่อยู่กับพวกผู้ไทยจน                                                         สิ้นชีวิตในการรบ  ก่อนสิ้นชีวิตได้ใช้ผ้าชุบเลือดสีแดงแนบกาย                                                         ไว้พวกข่าจึงถือว่าสีแดงเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่า    พวกข่ายังมี                 ประวัติว่าเคยเป็นนักรบที่ห้าวหาญมีหน้าไม้พร้อมลูกดอกอาบยาพิษยางน่อง(ยางไม้ที่มียาพิษ)เป็นอาวุธประจํา                 กายแม้ในสมัยที่ดินแดนลาวยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสอยู่  ทหารข่าของฝรั่งเศสบางหน่วยยังนิยมใช้หน้าไม้                 เป็นอาวุธ  ปัจจุบันในแขวงสุวรรณเขต,แขวงคําม่วน,แขวงสาลวันและแขวงอัตปือของลาวก็ยังมีข้ารัฐการ                 ตําแหน่งสูงๆที่มีเชื้อสายพวกข่าอยู่ไม่น้อย  จังหวัดมุกดาหารปัจจุบันยังมีคนไทยเชื้อสายข่าอยู่ในเขตอําเภอเมือง                 ที่บ้านพังคองและนาเสือหลาย   ในเขตอําเภอดอนตาลที่บ้านบาก   ในเขตอําเภอดงหลวงมีชาวไทยเชื้อสายข่าอยู่                 ที่บ้านกกตูม,บ้านส่านแว้,บ้านคําผักกูด,บ้านโคกกุง,บ้านปากช่อง,บ้านหินกอง                                               ต่อมาทางนิคมสร้างตนเอง  ที่อําเภอนิคมคําสร้อย  จังหวัดมุกดาหารได้อพยพพวกไทยข่า(บรู)                 จากภูพานซึ่งเป็นเขตรอยต่อ ๔ จังหวัด(กาฬสินธุ์,สกลนตร,นครพนม,มุกดาหาร)จํานวน ๑๗๑ ครอบครัวมาอยู่ที่                 บ้านร่มเกล้า ของนิคมสร้างตนเองคําร้อยโดยได้รับความร่วมมือจากกองทัพภาคที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์                 พ.ศ.๒๕๑๗  โดยได้จัดสรรที่ดินให้ทํากินและปลูกบ้านเรือนให้เป็นหมู่บ้านชาวไทยข่าตลอดทั้งช่วยเหลือจัดให้                 ราษฎรเหล่านี้สามารถเลี้ยงตัวเองได้และพัฒนาให้เป็นหมู่บ้านที่เท่าเทียมกับหมู่บ้านอื่นๆ                                                                    ๔.ไทยกะโซ่  ชาวกะโซ่บางแห่งก็เรียกว่า โซ่ หรือ โส้                                                         ซึ่งในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานเขียนว่า กะโซ่   แต่ก็ยัง                                                         มีผู้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกเดียวกับลาวโซ่งในจังหวัดเพชรบุรี,จัง                                                         หวัดนครปฐมและจังหวัดสุพรรณบุรี  แต่แท้จริงลาวโซ่งคือพวก                                                         ไทดํา   ที่อพยพมาจากเมืองแถนหรือเดียนเบียนฟูในสมัยกรุงธน                                                         บุรี  คําว่า กะโซ่ มาจากคําว่า ข่าโซ่ หมายถึงข่าพวกหนึ่งในตระ                                                         กูลมอญเขมร   กะโซ่ตามลักษณะและชาติพันธ์ถือว่าอยู่ในกลุ่ม                       ชาวไทยเชื้อสายข่าอําเภอนิคมคําสร้อย                   มองโกลอยด์    กะโซ่มีภาษาและวัฒนธรรมแตกต่างไปจากพวก                                                                                        ข่าบ้างเล็กน้อยแต่ภาษาฟังเข้าใจกัน  ภาษาของกะโซ่ยังถือว่าอยู่ใน                 ตระกูลออสโตรเอเชียติค สาขามอญเขมรหรือ กะตุ (Katuic)  ถิ่นฐานดั้งเดิมของชาวกะโซ่อยู่ในแขวงคําม่วน,
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24