Page 410 - รวมเล่ม บทที่ 1-252 Ebook
P. 410
198
นามบัญญัติ ไม่มีการปรุงแต่ง จนประทับเข ้าไปในจิตโดย
ทั้งในทางดี และทางไม่ดี อัตโนมัติ เมื่อตกผลึกแล ้ว
ก็ให ้ปล่อยวาง "กําลังธรรม"
ซึ่งการปรุงแต่งแม ้แต่จะเป็น นั้นเสีย ไม่หลงเหลือรูปนามใด
ในทางดี เราต ้องยอมรับว่า เลย
อย่างไรๆ มันก็ยังอยู่ในขั้น
สมมุติ การยึดดีถือดี อันว่าความว่างแท ้ ในทางๆนี้
มันก็กัดเราเจ็บพอๆ กับการ นั้น มันมีพร ้อมกับตัวเรานี่
ยึดถือเรื่องไม่ดี แหละ
มันยังต ้องตกเป็นทาสของการ มันไม่มีการเกิดขึ้น ไม่มีการ
ปรุงแต่ง ซับซ ้ อนต่อไป อย่าง สิ้นสุด แต่ที่มันไม่ว่าง ก็เพราะ
ไม่มีที่สิ้นสุด การยึดปรุง ทําให ้เกิดมายา
หรือสมมุติ ที่ไม่ใช่ตัวตนจริง
ที่ถูก จึงต ้องทะลุทั้งดี และไม่ บังตาเราอยู่
ดี ขึ้นไป
ไม่ต ้องไปปรุงแต่งใดๆ ทั้งสิ้น การเข ้าถึงความว่างแท ้ ก็
เพียงแต่ลืมตามองให ้เห็น
เหมือนกับลูกสองคนทะเลาะ เท่านั้น
กัน
คนหนึ่งไม่ดี ไปรังแกอีกคน ความว่างแท ้ มันมีอยู่แล ้ว
หนึ่ง ผู้ปกครองต ้องทําโทษ นิรันดร์กาล ปราศจากรูปนาม
ทั้งสองคน เพื่อป้องกันมิให ้ ไม่มีอะไร จึงไม่มีอะไรลุถึง
ทะเลาะกันตลอดไป อะไร
มิใช่ไปลงโทษแต่ฝ่ ายเดียว
ขออธิบายให ้เห็นชัดตรงจุด
ทางๆ นี้ มีการเข ้าถึงโดย นี้
ธรรมชาติ โพล่งเดียวถึง ในทางๆ โน้น อธิบายเหตุผล
โดยอาศัย "กําลังธรรม" ที่ ว่า จิตว่าง
รู้เท่าทันว่า รูปนามทุกสิ่งเป็น บางครั้งเพียงแค่หลุดพ ้นจาก
สมมุติ สวย รวย มีอํานาจ กิเลสชั่วคราว
เพียงใด ในที่สุดก็ต ้อง ที่ถูกต ้อง ต ้องเป็นจิตหลุดพ ้น
ถูกเผาถูกฝัง เป็นเถ ้าถ่าน หรือ ตลอดกาล
เน่าเปื่อยไป ใหัพิจารณา
เนืองๆ

