Page 53 - มนุษย์
P. 53
ก็ขอให้ชาติหน้าเราได้เกิดมาเป็นเพื่อนกันอีกนะ”
“ฮือๆ” เสียงร้องไห้ด้วยความไม่อยากเสียใครไปจริงๆ เราสองคนรักกันมาก
จนใช้มือของเราทั้งสองข้างกอดตัวเองไว้เพราะมันท�าให้รู้สึกว่า นี่จะเป็นกอดสุดท้าย
ของเราสองคน...
17 กุมภาพันธ์ 2539 ตื่นเช้าอากาศสดใส สายลมเย็นเยือกพัดผ่านไป
แสงอาทิตย์ทอดส่องมายังร่างของเรา วันนี้แหละที่จะเป็นวันผ่าตัดที่จะต้องมีใครตาย
ไปสักคน ความรู้สึกมันเหมือนอยากหยุดเวลาและ ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่นี้ให้คุ้มค่าและ
สนุกที่สุด แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้..
19 กุมภาพันธ์ 2539 ผมฟื้นขึ้นมาแล้วหันไปมองข้าง ๆ ของผม ผมก็
ไม่เห็นหน้าของเจแล้ว ผมรู้สึกกับตัวเองว่า ท�าไมต้องเป็นผมที่จะเป็นคนใช้ชีวิต
ต่อไป ท�าไมต้องเอาผมไว้ ตอนนั้นผมไม่เข้าใจตัวเองเลย พ่อกับแม่ก็บอกแค่ว่าไม่รู้
จะเลือกใคร ผมเริ่มรู้สึกเหงาๆ เมื่อไม่มีเจอยู่ด้วย ไม่มีใครคอยคุยด้วย ไม่มีใครคอย
ให้ก�าลังใจ ไม่มีใครยิ้มด้วย หลังจากวันนี้ผมก็ต้องใช้ชีวิตเหมือนเด็กทั่วไปแล้วสินะ
ผมรู้สึกว่าไม่ชินเลย...
20 กุมภาพันธ์ 2539 แสงตะวันยามเย็นทอดส่องเป็นสีส้ม นกพากันกลับรัง
ผมนั่งอยู่ข้างริมแม่น�้าแล้วมองเงาหน้าตัวเองที่สะท้อนอยู่บนผิวน�้า คิดถึงเจมาก
มันอาจจะเป็นเพียงความไม่ชินกับการอยู่คนเดียวของผมก็ได้ ผมมองหน้าตัวเองนาน
มากจนตะวันใกล้จะตกดินแล้ว ผมก็ยังมองอยู่เรื่อยไป จนรู้สึกว่าผิวน�้านั้นจนเห็นเงา
ของคนบางคนก�าลังยืนดูผมอย่างโกรธแค้น
วินาทีนั้น ผมตัดสินใจลุกขึ้นยืน แล้วหันไปมองด้านหลังแต่กลับไม่เห็นอะไร
เลย เพราะตอนนั้นบรรยากาศมืดสลัว ผมจึงรีบกลับบ้าน เพราะผมคิดว่าผมอาจจะแค่
คิดถึงเจจนคิดไปเองก็ได้ พอผมถึงบ้านพ่อกับแม่ยังไม่กลับมาจากที่ท�างาน ผมจึงต้อง
อยู่บ้านเพียงคนเดียว ผมนั่งดูทีวีชั้นล่าง บรรยากาศตอนนั้นเงียบเหงามาก
เสียงลมที่พัดเข้ามาจากทางหน้าต่างท�าให้ผมรู้สึกหวาดกลัวและเริ่มจะคิด
อะไรแปลก ๆ
“ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก”
เสียงคนวิ่งบนชั้นสองของบ้าน ผมจึงรีบปิดทีวีแล้วหันไปมองที่บันได
50 สานกล้าวรรณกรรม 3