Page 7 - Potential Jan - Jun 18.indd
P. 7
้
การทําซําเปนจุดเริ่มต้นของความชํานาญ คุณครูคุมองและผู้ปกครองสามารถชวย
นักกีฬา นักเต้น นักดนตรี และอีกหลายอาชีพต้องมีการ สร้างความมั่นใจได้อยางไร
ฝกฝนเพื่อให้เกิดทักษะที่สมบูรณ์แบบที่สุด ความชำานาญใน เมื่อนักเรียนมีความเชี่ยวชาญในเนื้อหาพื้นฐานมากขึ้น
การทำาสิ่งต่างๆ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ พวกเขาก็จะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเวลาเรียนเนื้อหาใหม่หรือ
การฝกฝนทุกวันและการทำาซ ้ำาทำาให้นักเรียนตระหนักถึง หาคำาตอบจากโจทย์ที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน ความเชี่ยวชาญ
แนวคิดของแบบฝกหัดและนำาไปปรับใช้กับการเรียนเนื้อหา เบื้องต้นนี้เกิดขึ้นจากการทำาซ ้ำา ผู้ปกครองสามารถช่วยได้โดย
ระดับที่สูงขึ้นได้ ให้กำาลังใจบุตรหลานและสังเกตแรงจูงใจของพวกเขา รวมทั้ง
การทำาแบบฝกหัดซ ้ำาประกอบกับคำาแนะนำาจากคุณครูช่วย ช่วยย ้ำาเตือนให้เด็กๆ เข้าใจความสำาคัญของการตั้งเป้าหมาย
ให้นักเรียนฝกฝนการแก้ข้อผิดและช่วยสร้างพื้นฐานการเรียน และช่วยให้พวกเขาทำาเป้าหมายนั้นให้เป็นจริงได้แทนที่จะให้
รู้ในอนาคต ไมเคิล จอร์แดน นักบาสเกตบอลระดับตำานาน นั่งทำาแบบฝกหัดไปอย่างไร้จุดมุ่งหมาย คุณครูคุมองเองก็จะ
กล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณฝกชู้ตลูกบาสวันละ 8 ชั่วโมง ต่อให้คุณ ช่วยสังเกตแรงจูงใจของนักเรียนด้วยเช่นกัน รวมทั้งช่วยวาง
ชู้ตอย่างผิดวิธีก็ตาม แต่คุณก็จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการชู้ต เป้าหมายและให้กำาลังใจพวกเขาอยู่เสมอ
ลูกบาสอย่างผิดวิธีีอยู่ดี ถ้าพื้นฐานมั่นคงเสียอย่าง การจะ
ต่อยอดทำาสิ่งต่างๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก” การค้นหาระดับที่ “พอเหมาะพอดี” ของ
นักฟุตบอลชาวโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด หนึ่งใน การเรียน
นักฟุตบอลที่ดีที่สุดในยุคนี้และผู้ได้รับรางวัลลูกบอลทองคำา
4 สมัยเป็นอีกคนหนึ่งที่ฝกฝนอย่างสม่ำาเสมอจนทำาให้เขา เช่นเดียวกับหลักการอื่นๆ ของระบบคุมอง การทำาซ ้ำาช่วย
กลายมาเป็นนักเตะฟรีคิกตัวฉกาจระดับโลก โรนัลโดฝกฝน ค้นหาระดับการเรียนที่ “พอเหมาะพอดี” ของนักเรียนแต่ละคน
เพิ่มเติมหลังการฝกซ้อมปกติในแต่ละวันเพื่อฝกยิงลูกฟรีคิก ในฐานะขององค์กรที่เรียนรู้จากนักเรียนมาอย่างต่อเนื่อง
คุมองมีการปรับปรุงแบบฝกหัดอยู่เสมอเพื่อให้นักเรียนสามารถ
4 ครั้งแล้วครั้งเล่า เรียนก้าวหน้าโดยปราศจากการทำาซ ้ำาที่ไม่จำาเป็น
การช่วยให้นักเรียนเรียนก้าวหน้าได้คือหนึ่งในเป้าหมาย
ของเรา เพราะคุมองมุ่งเน้นให้นักเรียนเรียนเนื้อหาระดับมัธยม
3 ปลายให้ได้เร็วที่สุด ใน“วารสารยามาบิโกะ* ฉบับที่ 74 ปี
1982” ได้อธิบายไว้ว่า “ถึงแม้ว่านักเรียนจะเรียนเกินชั้นเรียนไป
ความจํา แล้วก็ตาม แต่คุณครูก็ควรพิจารณาให้เขาเรียนก้าวหน้าโดย
2 มีการทำาซ ้ำาที่น้อยลงกว่าที่ผ่านมาและสังเกตลักษณะการเรียน
ของเขา หากนักเรียนเรียนด้วยความยากลำาบาก คุณครูก็ควร
ให้พวกเขาย้อนกลับไปทำาแบบฝกหัดชุดที่ต่ำากว่าระดับปจจุบัน
สมาธิและทักษะใน และให้การทำาซ ้ำา สำาหรับนักเรียนที่มีความสามารถสูง หาก
การทํางาน คุณครูมีความสงสัยในความสามารถของพวกเขา คุณครูก็ควร
1 ให้พวกเขาเรียนก้าวหน้าไปก่อนและคอยดูผลลัพธ์ที่ได้ วิธีนี้จะ
ช่วยให้พวกเขาก้าวไปเรียนเนื้อหาระดับมัธยมปลายได้เร็วที่สุด
เท่าที่จะเป็นไปได้”
ดังนั้น สิ่งสำาคัญที่คุณโทรุ ต้องการฝากถึงคุณครูคุมองทุกๆ
ท่านคือ “หากคุณครูมีความสงสัยในความสามารถของนักเรียน
คุณครูควรให้พวกเขาเรียนก้าวหน้าไปก่อน”
เป้าหมายของระบบการเรียนแบบคุมองสามารถเป็นจริง
ขึ้นมาได้ด้วยการฝกฝนเเละการให้การทำาซ ้ำาในปริมาณที่
“พอเหมาะพอดี” ดังเช่นที่คุณโทรุ คุมอง เคยกล่าวไว้เสมอว่า
“ไม่มีคำาว่า “สิ่งนี้ดีแล้ว” มีแต่คำาว่า “สิ่งที่ดีกว่า””
*วารสาร “ยามาบิโกะ” เป็นวารสารสำาหรับคุณครูคุมองที่ประเทศญี่ปุน 7 7 7