Page 117 - ตามรอยพระศาสดา
P. 117
116
ขอรับพระราชทานโอกาสไว้ว่า กุลบุตรผู้ใดจะบวชในพระพุทธศาสนา แม้ว่า
มารดา บิดายังไม่ยินยอมพร้อมใจอนุญาตให้บรรพชาแล้ว ขอให้ทรงงด
อย่ากระท�าการอุปสมบทกรรมแก่กุลบุตรผู้นั้นก่อน” ก็ทรงโปรดประทานพร
แก่พระพุทธบิดา อันเป็นธรรมเนียมมาจนทุกวันนี้
เมื่อพระพุทธเจ้าประทานพระอนุญาตแก่พระพุทธบิดาแล้ว เลย
ถวายพระพรลาพาพระนันทะ พระราหุล พระอัครสาวกทั้งคู่ กับภิกษุสงฆ์
หมู่ใหญ่ กลับสู่กรุงราชคฤห์ ทรงประทับ ณ สีสปาวัน (ป่าไม้กระทุ่มเลือด)
อนาถบิณฑิกเศรษฐี
ท่านอนาถบิณฑิกะนี้เป็นท่านหนึ่ง และมีบทบาทมากในสมัย
พระพุทธเจ้า เพราะท่านได้รับยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเลิศกว่าบรรดา
อุบาสกทั้งหลายในด้านการให้ทาน ท่านสร้างวัดพระเชตวัน อันเป็นวัดที่
ยิ่งใหญ่ที่พระพุทธเจ้าได้ประทับอยู่ถึง ๑๙ พรรษา ในจ�านวน ๔๕ พรรษา
ที่พระพุทธเจ้าทรงเผยแผ่พุทธศาสนา ก่อนที่ท่านอนาถบิณฑิกะจะตายไป
อุบัติในสวรรค์ชั้นดุสิตนั้น เล่าตามประวัติของท่านในที่นี้จะขอเล่ามาแต่
ย่อๆ
กล่าวกันว่า ท่านอนาถบิณฑิกะนั้นเป็นบุตรเศรษฐี พ่อของท่านชื่อ
สุมนเศรษฐี อยู่ในกรุงสาวัตถี ท่านร�่ารวยจากการค้า มีกองเกวียนคาราวาน
เดินทางไปค้าขายตามต่างเมือง หลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วประมาณ
๑ พรรษา ในคราวหนึ่งท่านอนาถบิณฑิกะเดินทางจากกรุงสาวัตถีลงใต้
ไปยังกรุงราชคฤห์ ด้วยธุระการค้าบางอย่าง มาพักอยู่ที่บ้านเศรษฐีในกรุง
ราชคฤห์ ซึ่งเศรษฐีนั้นเป็นพี่เขยของตนเอง เมื่อพักอยู่ในบ้านนั้น ได้เห็น
พี่เขยซึ่งเป็นเศรษฐีตระเตรียมทานอย่างมากทีเดียว ท่านอนาถบิณฑิกะ
ก็สงสัยว่าพรุ่งนี้จะมีการจัดงานแต่งงานในบ้านนี้ หรือพระราชาจะเสด็จ
ตามรอยพระศาสดา