Page 122 - ตามรอยพระศาสดา
P. 122
121
พระมหานามะจึงรับสั่งว่า “ถ้าอนุรุทธจะอยู่ ก็ต้องศึกษาเรื่อง
การครองเรือน เรื่องบ�ารุงวงศ์ตระกูลให้จงดี” และพระมหานามะก็ถวาย
ค�าแนะน�าการครองชีพด้วยกสิกรรม ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ อนุรุทธกุมาร
ก็ฟังแล้วทรงระอาในการงานไม่รู้จักจบ ต้องท�าติดต่อกันไปไม่รู้สิ้น จึงรับสั่ง
ว่า “ถ้าเช่นนั้น ให้เจ้าพี่อยู่เถอะ หม่อมฉันจะบวชเอง ร�าคาญที่จะต้องไป
วุ่นอยู่กับงานไม่รู้จักจบ ต้องท�าติดต่อไม่รู้สิ้น” รับสั่งแล้วก็ลาพระมารดา
ขออนุญาตบรรพชาตามพระบรมศาสดา พระมารดาตรัสห้ามถึง ๓ ครั้ง
ภายหลังทรงอนุญาตเป็นนัยว่า “ถ้าพระภัททิยราชกุมาร ผู้เป็นโอรสของ
พระนางกาฬีโคธาศากยวงศ์ ผู้เป็นเพื่อนเล่นที่สนิทสนมของพ่อจะออก
บรรพชา พ่อจะบรรพชาด้วยก็ตามเถิด” พระอนุรุทธะก็ไปชวนพระภัททิยะ
ให้ออกบวชด้วยกัน แต่วิงวอนชวนอยู่ถึง ๗ วัน พระภัททิยะจึงยินยอม
ปฏิญญาว่าจะบวชด้วย
ในกาลนั้น กษัตริย์ทั้ง ๖ องค์ คือ พระภัททิยะ ๑ พระอนุรุทธะ ๑
พระอานนท์ ๑ พระภัคคุ ๑ พระกิมพิละ ๑ พระเทวทัต ๑ ได้พร้อมใจกัน
จะออกบรรพชา ชวน อุบาลี อ�ามาตย์ ช่างกัลบก (๑) เป็น ๗ ด้วยกัน เดินทาง
ไปสู่มลรัฐชนบทเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาที่อนุปิยอัมพวัน ถวายอภิวาทแล้ว
ขอประทานบรรพชาอุปสมบท
อนึ่ง ก่อนแต่พระบรมศาสดาจะทรงประทานบรรพชา พระอนุรุทธะ
ได้กราบทูลว่า “ข้าแต่ผู้มีพระภาค ข้าพระองค์เป็นกษัตริย์ สูงด้วย
ขัตติยมานะอันกล้า ขอให้พระองค์ประทานบรรพชาแก่อุบาลี อ�ามาตย์
ผู้รับใช้สอยติดตามของมวลข้าพระองค์ก่อน ให้ข้าพระองค์ทั้งหลายได้
บรรพชาต่อภายหลัง จะได้คารวะ ไหว้นบ เคารพนับถืออุบาลี ผู้บวชแล้ว
ก่อน บรรเทาขัตติยมานะให้บางเบาจากสันดาน”
ตามรอยพระศาสดา