Page 66 - คมองานบรหาร_Neat
P. 66
62
2.1 ข้อมูลข่าวสารโดยตรง ได้แก่ข้อมูลข่าวสารที่ได้รับแจ้งโดยตรงจากสื่อหรือแหล่งข้อมูลตรง
เช่น ข้อมูลที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนทั้งจากทางโทรศัพท์ จดหมายหรือมาร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ด้วย
ตนเอง ข้อมูลที่ได้จากการเยี่ยมเยียนจากประชาชน ข้อมูลที่ได้รับจากการสอบสวนผู้ต้องหา หรือผู้ต้องสงสัย ฯลฯ
2.2 ข้อมูลข่าวสารโดยอ้อม เช่น ข้อมูลที่ลงตีพิมพ์ทางหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง
ข่าวสารแลกเปลี่ยนระหว่างท้องที่ ฯลฯ
2.3 ข้อมูลการส ารวจพื้นที่ล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม
3. ประเมินผลการปฏิบัติ
- ประเมินผลการปฏิบัติตามแผน และผลงานที่ได้รับ
- ประเมินผลการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ในขณะออกตรวจ
- ประเมินตัวต ารวจสายตรวจผู้ปฏิบัติ
- อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ
การประเมินผล นับว่าเป็นเครื่องมือส าคัญของนักบริหาร ที่จะเป็นตัววัดความส าเร็จของงาน
และช่วยให้ผู้บริหารใช้บุคคลให้เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถเหมาะกับงาน (Put the right man on the
right job) ประหยัดบรรเทาความเสียหายและก่อให้เกิดขวัญและก าลังใจในการปฏิบัติงานการติดตามและ
ประเมินผล มีเทคนิคและวิชาการหลายประการ ขึ้นอยู่กับลักษณะรูปแบบขององค์กร และลักษณะงาน
การบริหารงานสายตรวจระดับ สน./สภ. สามารถประเมินผลความส าเร็จโดยประเมินผล
การปฏิบัติได้จาก
1) สถิติทางคดีอาญาต่าง ๆ
อัตราการเกิดของคดีอาญาต่าง ๆ เป็นข้อมูลที่บริหารงานสายตรวจสามารถน ามา
ประเมินผลการปฏิบัติโดยการวบรวมจากการับค าร้องทุกข์ของพนักงานสอบสวน ซึ่งเรียกข้อมูลประเภทนี้ว่า
“police report” และผู้บริหารจะต้องค านึงถึงอาชญากรรมที่เกิดขึ้นโดยต ารวจไม่รู้เพราะไม่มีผู้มาแจ้งความ
ด้วยเหตุผลหลายประการซึ่งเรียกข้อมูลประเภทนี้ว่า “dark figure” เช่น
- อัตราคดีเกิด ที่ผู้เสียหายไม่ยอมแจ้งความเนื่องจากได้รับความอับอาย
- อัตราคดีเกิด ที่มีการประนีประนอมยอมความ
- อัตราคดีเกิด ที่พนักงานสอบสวนมิได้รับค าร้องทุกข์
ฯลฯ
รวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาท าการวิเคราะห์ แล้วท าการเปรียบเทียบตามกลุ่มประเภทคดี
การเพิ่ม-ลด ของคดี อัตราร้อยละต่าง ๆ ด้วยกรรมวิธีทางสถิติเพื่อให้ทราบถึงสถานภาพอาชญากรรม ในเขตพื้นที่
รับผิดชอบว่าหน่วยสามารถด าเนินการให้บรรลุเป้าหมายได้หรือไม่ การวิเคราะห์เปรียบเทียบจะต้องด าเนินการ
ให้ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ อาจแบ่งช่วงเวลาได้ดังนี้