Page 121 - e-book Health Knowledge Articles
P. 121
ปรับวิถีชีวิตสมดุล ห่างไกล‘โรคไม่ติดต่อ’
เมื่อการดำรงชีวิตของประชากรโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ย่อมต้องส่งผลต่อ
คุณภาพชีวิต และสุขภาพอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เป็นเหตุให้ประชากรทั่วโลกเจ็บป่วยด้วย “โรค
ไม่ติดต่อเรื้อรัง”องค์การอนามัยโลก เผยว่าประชาชนทั่วโลกมีอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อ
มากถึงปีละ 36 ล้านคน คิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิตทั้งหมด หลายๆ ประเทศให้
ความสำคัญของโรคไม่ติดต่อกำลังเพิ่มมากขึ้น ไม่เฉพาะประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศที่กำลัง
พัฒนาจำนวนมาก สำหรับประเทศไทยโรคติดต่อลดลงเหลือเพียง 3 โรคใหญ่ คือ โรคเอดส์ วัณ
โรค และไข้เลือดออก แต่โรคไม่ติดต่อกำลังมีบทบาทในการเป็นภัยต่อสุขภาพของประเทศ
โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สำหรับกลุ่มเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ วัยทำงาน
เพราะมีความเครียด ขาดการออกกำลังกาย เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง แต่ปัจจุบันวัยเด็กเริ่มเป็น
อีกวัยที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เด็กไทยมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนมากขึ้น และเด็กที่อ้วน
เมื่อเติบโตก็จะเป็นคนอ้วน มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เบาหวาน ซึ่งขณะนี้เด็กไทยที่เป็น
โรคเบาหวานก็มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ
โรคไม่ติดต่อ เกิดจากพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่ไม่ถูกต้อง และอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมที่
ไม่เหมาะสมซึ่งไม่มีการติดต่อและแพร่กระจายของโรคแต่สามารถป้องกันได้ หากรู้เข้าใจ และ
ปฏิบัติตนในการดูแลสุขภาพได้ถูกต้องเพราะจะช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะนำไปสู่
การเกิดโรคได้
การดูแลสุขภาพให้ห่างไกลโรคไม่ติดต่อ โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของ
ตนเอง ด้วยการมีวิถีชีวิตที่สมดุล ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังนี้
1. เลือกกินอาหารอย่างมีสติ รับประทานอาหารในปริมาณที่พออิ่ม เลือกอาหารที่มี
ไขมันต่ำ ปรุงรสชาติหวานและเค็มน้อย โดยวันหนึ่งควรรับประทานผักและผลไม้
ที่รสชาติไม่หวาน เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่มีฉลากโภชนาการ ควรเลือกที่มีปริมาณ
เกลือ และน้ำตาลต่ำ
2. ออกกำลังกายให้สมดุลกับปริมาณอาหารที่เรารับประทานในแต่ละวัน ในวันหนึ่ง
ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที ถ้าไม่มีเวลาออกกำลังกายได้นานในแต่ละครั้ง
ก็ใช้การออกกำลังกายสะสม เช่น ช่วงเช้าออกกำลังกายได้ 10 นาทีช่วงเย็นออกเพิ่ม
อีกสัก 20 นาที
115