Page 12 - สังคมไทยในบริบทโลก
P. 12

สังคมไทยในบริบทโลก







                                       สนธิสัญญาเบาว์ริ่งระหว่างประเทศไทยกับประเทศอังกฤษใน
               พ.ศ. 2398 เป็นความประสงค์ของชนชั้นผู้น าไทยที่เข้าใจแนวคิดเศรษฐศาสตร์และแนวคิด

               การเมืองเสรีนิยม ดังสาระโดยสังเขปต่อไปนี้

                                       1) รัฐบาลไทยยินยอมให้ประเทศอังกฤษตั้งสถานกงสุลในกรุงเทพ
               และให้สิทธิเสรีภาพนอกอาณาเขต (Extraterritoriality) แก่คนในบังคับอังกฤษ กงสุลอังกฤษเป็น

               ผู้มีอ านาจตัดสินคดีทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา

                                       2) คนในสังกัดอังกฤษมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา ได้รับสิทธิ

               ท าการค้าและพ านักในกรุงเทพหรือท้องถิ่นที่สามารถเดินเรือจากกรุงเทพไปถึงภายใน 24 ชั่วโมง

                                       3) คนในสังกัดอังกฤษอยู่ภายใต้อ านาจของกงสุลอังกฤษ
               ซึ่งหมายความว่าไทยยินยอมให้คนต่างด้าวมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขตไม่ต้องขึ้นศาลไทย

               เมื่อกระท าความผิด

                                       4) ยกเลิกการเก็บภาษีขาเข้าตามความกว้างของปากเรือตามแบบเดิม

                 โดยก าหนดพิกัดอัตราขาเข้าและขาออกไว้ตายตัว คือภาษีสินค้าขาเข้าในอัตราร้อยละ 3 ส าหรับ

                 สินค้าขาออกให้เก็บภาษีได้เพียงครั้งเดียวตามพิกัดอัตราที่ก าหนดไว้ในภาคผนวกต่อท้ายสัญญา
                 พ่อค้าอังกฤษมีสิทธิ์จะซื้อขายกับราษฎรโดยตรง

                                       5) รัฐบาลไทยขอสงวนสิทธิ์ที่จะห้ามส่งออกข้าว เกลือ และปลาใน

               กรณีที่เกิดการขาดแคลนขึ้นภายในประเทศ

                                       6) ประเทศไทยถือว่าอังกฤษเป็นชาติที่ได้รับการอนุเคราะห์ยิ่ง
                                       7) ไม่มีการก าหนดอายุของสนธิสัญญา กล่าวคือบอกเลิกไม่ได้การ

               เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความใดๆจะกระท าได้เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว 10 ปี และต้องได้รับความ

               เห็นชอบจากทั้งสองฝ่าย และแจ้งล่วงหน้า 1 ปี

                                       สนธิสัญญาเบาว์ริ่งส่งผลอย่างส าคัญต่อระบบเศรษฐกิจ
               ของไทยกล่าวคือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากระบบเศรษฐกิจแบบยังชีพ กลายเป็นส่วนหนึ่งของ

               ระบบทุนนิยมโลก ระบบเศรษฐกิจแบบยังชีพเป็นแบบแผนการผลิตของเศรษฐกิจไทย

               ซึ่งมีมาดั้งเดิม แต่ละชุมชนมีบทบาทในการผลิตสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อตอบสนอง
               ความต้องการขั้นพื้นฐานภายในชุมชน และอาจใช้ในการแลกเปลี่ยนกับชุมชนแห่งอื่น ภายหลังการ

               ลงนามในสนธิสัญญาเบาว์ริ่งนับเป็นการเปิดประตูสู่ระบบการค้าเสรี โดยเศรษฐกิจของไทยถูกดึง

               เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทุนนิยมโลกและเข้าไปสู่ระบบการแบ่งงานกันท าระหว่างประเทศ การผลิต

               แบบพอยังชีพถูกแทนที่ด้วยการผลิตเพื่อการค้า นับเป็นการค้าส่งออกที่ตอบสนองความต้องการ



               52
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17