Page 9 - สังคมไทยในบริบทโลก
P. 9
สังคมไทยในบริบทโลก
4) ประเทศอังกฤษต้องยอมรับอ านาจของประเทศไทยเหนือรัฐไทรบุรี
นอกจากประเทศอังกฤษจะกระท าสนธิสัญญาทางพระราชไมตรี
ดังกล่าวข้างต้น ยังมีการลงนามร่วมกันในสนธิสัญญาทางการค้าซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลัก
ของประเทศตะวันตก ด้วยสาระส าคัญดังนี้
1) พ่อค้าอังกฤษต้องท าตามกฎหมายและธรรมเนียมไทย
2) ห้ามซื้อข้าวเป็นสินค้าออก
3) ประเทศอังกฤษต้องขายปืนและกระสุนดินปืนให้แก่รัฐบาลเท่านั้น
4) ประเทศไทยยินยอมที่จะเก็บภาษีปากเรือเพียงอย่างเดียวตาม
ความต้องการของประเทศอังกฤษ
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บภาษีปากเรือ มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม
ที่เก็บภาษีสินค้าขาเข้าคือเรือบรรทุกสินค้า 3 เสาเก็บวาละ 80 บาท เรือ 2 เสาเก็บวาละ 40 บาท
เป็นเรือบรรทุกสินค้าเหมาจ่าย 1,700 บาท ส าหรับเรือไม่บรรทุกสินค้า 1,500 บาท ทั้งนี้ได้ยกเลิก
ภาษีขาเข้าที่เก็บจากสินค้าร้อยละ 8 ด้วย ถึงแม้ไทยจะขาดรายได้จากภาษีสินค้าขาเข้าแต่
ในภาพรวมของสนธิสัญญา ประเทศอังกฤษค่อนข้างเสียเปรียบมากกว่า ดังนั้นใน พ.ศ. 2393
จึงได้ส่งเซอร์เจมส์ บรุค (Sir James Brook) มายังประเทศไทยเพื่อเจรจาแก้ไขสนธิสัญญาเบอร์นี่
แต่เป็นช่วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวก าลังทรงพระประชวรหนัก การเจรจาแก้ไข
สนธิสัญญาจึงต้องยกเลิกไป แต่กระนั้นเซอร์เจมส์ บรุค ก็แสดงความไม่พึงพอใจและเสนอ
ความเห็นต่อรัฐบาลอังกฤษที่จะใช้ก าลังบีบบังคับประเทศไทยตามนโยบายเรือปืน (Gun Boat
Policy) อันเป็นผลให้เจ้าฟ้ามงกุฎซึ่งทรงรับรู้ท่าทีดังกล่าวของฝ่ายประเทศอังกฤษ เนื่องจากทรง
อ่านภาษาอังกฤษได้ เปลี่ยนแปลงนโยบายต่อประเทศตะวันตกเมื่อพระองค์ทรงขึ้นครองราชย์
เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในเวลาต่อมา
ประเทศสหรัฐอเมริกาคือชาติตะวันตกที่เดินทางเข้ามาติดต่อ
กับประเทศไทยช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้นด้วยเช่นกัน แต่การค้าระหว่างกันไม่ค่อยมีความคืบหน้า
มากนักเนื่องจากระเบียบการค้าที่ประเทศไทยก าหนดไว้เป็นอุปสรรคส าคัญ ประเทศสหรัฐอเมริกา
จึงได้ส่งเอ็ดมันด์ โรเบิร์ต (Edmund Robert) เป็นทูตเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีและการค้าใน
สมัยรัชกาลที่ 2 ผลของการเจรจาปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายได้ตกลงท าหนังสือสนธิสัญญาระหว่างกัน
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2375 เนื้อหาเป็นท านองเดียวกันกับที่ประเทศไทยกระท ากับประเทศ
อังกฤษ คือประเทศสหรัฐอเมริกายินยอมให้ประเทศไทยเก็บภาษีปากเรือที่บรรทุกสินค้าเข้ามาขาย
49