Page 6 - สังคมไทยในบริบทโลก
P. 6
สังคมไทยในบริบทโลก
จากรูปแบบการจัดระเบียบการเมืองโลกด้วยองค์การระหว่างประเทศ
ภายหลังสงครามโลกทั้งสองครั้ง อาจเปรียบเทียบได้ว่าการด าเนินงานยุคแรกคือ สมัยองค์การ
สันนิบาตชาติ ประเทศฝ่ายชนะสงครามใช้กลไกการตัดสินใจร่วมกัน เป็นเครื่องมือในการควบคุม
และจ ากัดบทบาทประเทศผู้แพ้สงคราม การจัดระเบียบโลกจึงไม่สามารถด าเนินการต่อไปได้
เนื่องจากอุปสรรคดังนี้
1) องค์การสันนิบาตชาติไม่มีกองก าลังระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความเข้มแข็งอย่างมากในยุคนั้นมิได้
เข้าร่วมเป็นสมาชิก เนื่องจากต้องการรักษาความเป็นกลางและไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับ
ปัญหาความขัดแย้งในยุโรป
2) ประเทศฝ่ายผู้ชนะใช้องค์การสันนิบาตชาติ เป็นเครื่องมือในการ
บีบบังคับประเทศผู้พ่ายแพ้ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ก าหนดโดยครบถ้วนก่อนจึงจะเข้าเป็นสมาชิกได้
3) การด าเนินงานไม่สอดคล้องกันระหว่างประเทศอังกฤษและ
ประเทศฝรั่งเศส ในกรณีที่ประเทศเยอรมนีประกาศไม่เข้าร่วมการประชุมลดอาวุธที่กรุงเจนีวา
ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2475
ส่วนการด าเนินงานขององค์การสหประชาชาติมีความแตกต่างจาก
องค์การสันนิบาตชาติ ด้วยการให้ความส าคัญกับประเทศมหาอ านาจทั้งห้าคือ ประเทศ
สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต ฝรั่งเศส อังกฤษ และจีน ด้วยการก าหนดให้เป็นสมาชิกประเภท
ถาวรในคณะมนตรีความมั่นคง (The Security Council ) โดยสามารถใช้สิทธิวีโต้ในกรณีที่ไม่เห็น
ด้วยกับประเด็นที่เสนอเพื่อพิจารณา อย่างไรก็ตามในช่วงสงครามเย็นประเทศมหาอ านาจซึ่ง
มีบทบาทส าคัญในองค์การสหประชาชาติ และกลุ่มประเทศในสังกัดกลับแบ่งแยกเป็น 2 ขั้ว
ตามอุดมการณ์ที่ยึดถือ คือ อุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตยและอุดมการณ์สังคมนิยม
คอมมิวนิสต์
2.1.1.2 ระเบียบโลกทางเศรษฐกิจ
ลัทธิทางเศรษฐกิจที่ประเทศมหาอ านาจยุโรปก าหนดขึ้นในแต่ละ
ยุคสมัยเป็นไปเพื่อประโยชน์ของตน อันได้แก่ ความเจริญก้าวหน้าและมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ
แต่ก็ส่งผลกระทบต่อประเทศในทวีปเอเชียรวมทั้งประเทศไทยด้วย ดังเช่น ลัทธิพาณิชย์นิยม
สมัยที่ประเทศโปรตุเกสและสเปนเรืองอ านาจ อันเป็นระบบการค้าที่ถูกผูกขาดโดยรัฐ เพื่อน าสินค้า
ประเภทเครื่องเทศ ผลิตผลป่าจากประเทศในภูมิภาคนี้ไปขายในทวีปยุโรป ช่วงเวลาดังกล่าว
46