Page 27 - สังคมไทยในบริบทโลก
P. 27

สังคมไทยในบริบทโลก






                                               ขอบเขตพื้นที่ที่ชัดเจน (Territorialization) นับเป็นการจัดระเบียบพื้นที่
                       รูปแบบใหม่ ท าให้การทับซ้อนกันของอ านาจรัฐหมดไป ส านึกของความเป็นชาติมีจินตภาพ

                       ตามรูปแผนที่ซึ่งประเทศตะวันตกเป็นผู้ก าหนด มีส่วนอย่างส าคัญให้เกิดความรู้สึกความเป็น

                       ชาติขึ้น ขณะเดียวกันนโยบายของประเทศตะวันตก ทั้งที่มุ่งแต่แสวงประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
                       และการวางพื้นฐานการปกครองประชาธิปไตยแบบตะวันตก ล้วนมีส่วนกระตุ้นให้เกิดความรู้สึก

                       ชาตินิยมขึ้นในบรรดาประเทศอาณานิคม แต่ส าหรับประเทศไทย ความรู้สึกชาตินิยมแตกต่างไป

                       จากประเทศเพื่อนบ้าน  ทั้งแรงขับเคลื่อนให้เกิดและวิธีด าเนินการ อันเนื่องมาจากประเทศไทยไม่มี

                       ประสบการณ์จากแรงกดดันของการเป็นอาณานิคม แต่กระนั้นแนวคิดเรื่องชาตินิยมในประเทศไทย

                       ก็มีที่มาจากอิทธิพลของประเทศตะวันตกและเริ่มขึ้นช่วงเวลาใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน
                       โดยรอบ กล่าวคือสมัยรัตนโกสินทร์ตอนกลาง ส านึกของความเป็นชาติเริ่มในหมู่ชนชั้นน าไทย

                       แต่ทั้งนี้ความเป็นชาตินิยมยังคงแนบแน่นกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามโครงสร้างการปกครอง

                       แบบรวมศูนย์อ านาจภายใต้พระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม  อีกทั้งพระมหากษัตริย์ไทย

                       ในยุครัตนโกสินทร์ตอนกลางก็ทรงด าเนินพระราโชบายสร้างอุดมการณ์ชาตินิยมเพื่อสร้างเอกภาพ

                       ของคนในชาติ
                                               ดังนั้นพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า

                       เจ้าอยู่หัวจนถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแสดงพระราชอ านาจในฐานะผู้ทรง

                       ก าหนดวิถีแห่งประวัติศาสตร์ ด้วยการรวมศูนย์อ านาจเข้าสู่พระองค์ การเสริมสร้างพระราชอ านาจ

                       ดังกล่าวมีผลต่อการลดทอนอ านาจของขุนนาง นอกจากนี้ยังทรงย้ าถึงผลดีทางเศรษฐกิจ
                       แก่ประชาชนอันเกิดจากการค้าเสรีและทรงสร้างความเจริญทันสมัยนานัปการ รวมทั้งการกระชับ

                       พระราชอ านาจเหนือดินแดนทุกส่วนในพระราชอาณาจักร นับเป็นการเริ่มต้นกระบวนการสร้าง

                       รัฐชาติสมัยใหม่ซึ่งแตกต่างจากพระราชอ านาจของพระมหากษัตริย์ไทยในสมัยสังคมจารีต

                       อย่างสิ้นเชิง (อรรถจักร สัตยานุรักษ์  2538 : 312 – 316)
                                               การสร้างรัฐชาติสมัยใหม่เป็นพระราโชบายหนึ่งในพระบาทสมเด็จ

                       พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงโปรดฯ ให้มีการปฏิรูปการปกครองทั้งส่วนกลางและ

                       ส่วนภูมิภาคเมื่อ พ.ศ.2435 เนื่องจากปัญหาการบริหารราชการขาดประสิทธิภาพ การปกครอง

                       มีลักษณะซับซ้อน ทั้งจากจ านวนประชากรและขอบเขตอ านาจการปกครองที่ขยายไปตามหัวเมือง

                       จนไปถึงประเทศราช ท าให้อ านาจการเมืองท้องถิ่นหรือขุนนางท้องถิ่นมากขึ้นตามล าดับ
                       ดังนั้นการปรับปรุงระบบบริหารราชการให้เป็นระเบียบแบบแผนและเป็นเอกภาพภายใต้

                       ศูนย์อ านาจส่วนกลาง ย่อมส่งผลดีต่อเสถียรภาพแห่งระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และจ ากัด



                                                                                                        67
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32