Page 25 - สังคมไทยในบริบทโลก
P. 25
สังคมไทยในบริบทโลก
ส าหรับเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นระยะที่ประเทศไทยปกครอง
ในระบอบประชาธิปไตย ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475
แม้ว่าจะยังคงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขสูงสุด แต่ช่วงเวลานั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อานันทมหิดลยังทรงพระเยาว์และทรงศึกษาอยู่ ณ ต่างประเทศ อ านาจการตัดสินใจบริหาร
ประเทศจึงอยู่กับรัฐบาลซึ่งมีหลวงพิบูลสงคราม (จอมพล ป.พิบูลสงคราม) เป็นนายกรัฐมนตรี
รัฐบาลชุดนี้มีแนวคิดแบบชาตินิยม ดังปรากฏจากการด าเนินนโยบายต่อต้านชาวจีน รวมทั้ง
ก าหนดนโยบายรัฐนิยมซึ่งเน้นความเป็นชาติไทยอย่างเต็มที่ การที่ประเทศมหาอ านาจ
ฝ่ายสัมพันธมิตรเพลี่ยงพล้ าการรบในระยะต้นและประเทศญี่ปุ่นประสบชัยชนะในการยึดครอง
ดินแดนจากประเทศจีน รวมทั้งขยายอิทธิพลในเอเชียโดยใช้ค าขวัญว่าเอเซียเพื่อชาวเอเซีย
ประเทศไทยยังคงประกาศตนเป็นกลาง แต่มีปัญหาปะทะกับกองก าลังฝรั่งเศสในสงครามอินโดจีน
เมื่อเดือนมกราคม 2483 กรณีพิพาทดังกล่าวยุติลงจากการไกล่เกลี่ยของประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งสังกัด ฝ่ายอักษะ โดยประเทศฝรั่งเศสยินยอมยกดินแดนบางส่วนให้กับไทย ได้แก่ เมืองศรี
โสภณ มงคลบุรี และพระตระบอง
ต่อมาในปี 2484 ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่อ่าวไทยทางตอนใต้เพื่อเดินทัพ
ผ่านไปยังประเทศพม่าและประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ ไทยก็จ าต้อง
เป็นพันธมิตรกับประเทศญี่ปุ่นประกาศสงครามต่อฝ่ายสัมพันธมิตร อย่างไรก็ตามเมื่อสงคราม
สิ้นสุดลง โดยประเทศญี่ปุ่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ประเทศไทยก็ใช้วิธีการทูตอ้างว่าค าประกาศสงคราม
ไม่สมบูรณ์เนื่องจากผู้ส าเร็จราชการแทนพระองค์ลงนามไม่ครบทั้งสามคน รวมทั้งไทย
ได้มีขบวนการเสรีไทยเคลื่อนไหวต่อต้านฝ่ายอักษะ ในที่สุดฝ่ายสัมพันธมิตรก็ยินยอมรับว่า
ไทยมิใช่ประเทศผู้แพ้สงคราม แม้ว่าประเทศอังกฤษและประเทศฝรั่งเศสจะมีเงื่อนไขบางประการ
ก็ตาม ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกายอมรับตามค าเสนอของไทยโดยไม่มีข้อเรียกร้อตอบแทน
เป็นผลให้ไทยชื่นชอบในท่าทีของประเทศสหรัฐอเมริกา และด าเนินนโยบายต่างประเทศในทางโน้ม
เอียงฝักใฝ่ ค่ายเสรีประชาธิปไตยที่มีประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้น าในเวลาต่อมา
หากพิจารณาถึงนโยบายต่างประเทศของจอมพล ป.พิบูลสงคราม
แล้วก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นความพยายามที่จะผนวกไทยให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมโลกเช่นกัน
ทั้งนี้นับตั้งแต่ด ารงต าแหน่งนายกรัฐมนตรีได้มีการใช้เครื่องมือหรือแนวทางในการน าพาประเทศ
ไปสู่ความเจริญด้วยลัทธิผู้น าเผด็จการเช่นเดียวกับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์และเบนนิโต มุสโสลินี
แนวคิดหลักคือการสร้างชาติให้มีความยิ่งใหญ่ทันสมัยและทัดเทียมนานาอารยประเทศภายใต้
อุดมการณ์ชาตินิยม (ชาตรี ประกิตนนทการ, 2550 : 323)
65