Page 28 - สังคมไทยในบริบทโลก
P. 28
สังคมไทยในบริบทโลก
กรอบการขยายอิทธิพลของลัทธิจักรวรรดินิยมจนอาจกล่าวได้ว่าสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นช่วงเวลา
ที่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มีความหมายสมบูรณ์ที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย กลไกการ
บริหารราชการแบบใหม่ด าเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการสร้างรัฐชาติตามนิยามของ
ประเทศตะวันตก
การกระตุ้นให้ประชาชนไทยเกิดส านึกของความเป็นชาติปรากฏ
ชัดเจนในสมัยรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงด าเนินพระราโชบาย
สร้างชาติ ด้วยการแสดงออกถึงความมีรากเหง้าและตัวตนอันสืบเนื่องต่อกันมาให้ปรากฏ
แก่สายตานานาอารยประเทศ หรืออีกนัยหนึ่งคืออัตลักษณ์เฉพาะของความเป็นชาติไทย
เช่นเดียวกับการที่พระองค์ทรงใช้วัฒนธรรมที่แตกต่าง เพื่อแสดงถึงความเป็นคนอื่นก่อให้เกิด
ความภาคภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทยและได้อาศัยในดินแดนประเทศไทย ลักษณะเด่นของพระราช
กรณียกิจในพระองค์ต่อการสร้างให้ประชาชนตระหนักถึงความเป็นรัฐชาติตามแนวคิดตะวันตก
ซึ่งยังคงเป็นสิ่งใหม่ในสังคมไทย คือความผูกพันต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
โดยเฉพาะความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
2.2.2.2 การพัฒนาประเทศสู่ความเป็นสมัยใหม่
แนวคิดเรื่องความเป็นสมัยใหม่ ความทันสมัย หรือความเจริญในสมัย
รัตนโกสินทร์ตอนกลาง ซึ่งในยุคนั้นใช้ค าทับศัพท์ว่าศิวิไลซ์ (civilize) เป็นผลมาจากความตระหนัก
ถึงระเบียบโลกใหม่อันมีประเทศในทวีปยุโรปเป็นแกนแห่งอ านาจ จึงต้องมีการปฏิรูปประเทศ
ให้ก้าวหน้าในสายตาชาวตะวันตก ความเป็นสมัยใหม่ยุคนั้นก็คือการท าให้เป็นแบบตะวันตก
ทั้งนี้ในระยะแรกเริ่มเป็นกระบวนการส่งผ่านจากข้างบนลงสู่เบื้องล่าง กล่าวคือ จาก
พระมหากษัตริย์สู่พระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง และประชาชน เมื่อพระมหากษัตริย์ทรงมีพระบรมรา
โชบายที่จะทรงใช้รูปแบบวัฒนธรรมตะวันตกเป็นมาตรฐานวัดความเจริญ ชนชั้นระดับล่างก็สนอง
ต่อพระราชนิยมของพระองค์ด้วย ความต้องการแสดงออกถึงความเป็นสมัยใหม่ของประเทศ
เพื่อให้ประจักษ์แก่สายตาชาวตะวันตก การเลือกรับวัฒนธรรมตะวันตกมาปรับใช้กับสังคมไทย
จึงเป็นไปในทางรูปธรรม
68