Page 130 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 130

คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง   ๑๐๒


                                                              รับขน

                          โจทก์ฟ้องว่า  จ าเลยรับขนสินค้าของโจทก์แต่ประมาทเลินเล่อท าสินค้าสูญหายไปทั้งหมด

                  ขอให้จ าเลยใช้ค่าเสียหาย  จ าเลยให้การว่า  สินค้าที่รับขนถูกคนร้ายปล้นเอาไปโดยมิใช่ความผิด

                  ของจ าเลย

                  ประเด็นข้อพิพาท

                            ๑. จ าเลยต้องรับผิดในการที่สินค้าของโจทก์สูญหายไปหรือไม่

                            ๒. ค่าเสียหายของโจทก์มีเพียงใด


                  หน้าที่น าสืบ จ าเลยมีภาระการพิสูจน์ในประเด็นข้อแรก ส่วนโจทก์มีภาระการพิสูจน์ในประเด็น

                  ข้อสอง  เพื่อความสะดวกให้จ าเลยน าสืบก่อนทั้งสองประเด็น  แล้วจึงให้โจทก์น าพยานเข้าสืบ

                  เหตุผล    จ าเลยรับว่าจ าเลยรับขนสินค่าของโจทก์และสินค้าของโจทก์สูญหายไป แต่ต่อสู้ว่า

                  สินค้าสูญหายเพราะถูกคนร้ายปล้นเอาไปโดยมิใช่ความผิดของจ าเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา ๖๑๖

                  ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของที่รับขนสูญหาย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการสูญหายนั้นเกิด

                  แต่เหตุสุดวิสัย  ข้อต่อสู้ของจ าเลยเป็นการอ้างเหตุสุดวิสัย  ภาระการพิสูจน์ย่อมตกแก่จ าเลย

                  แม้โจทก์จะอ้างว่าจ าเลยประมาทเลินเล่อ  ก็ไม่ท าให้ความรับผิดของจ าเลยเปลี่ยนแปลงไป  จ าเลย

                  จึงมีหน้าที่น าสืบก่อนในประเด็นข้อแรก(ฎีกาที่ ๔๕๖/๒๕๓๔)  ส่วนประเด็นข้อสอง ภาระการ

                  พิสูจน์ตกแก่โจทก์   โจทก์จึงมีหน้าที่น าสืบก่อน  (ฎีกาที่ ๘๒๘/๒๔๙๘)


                                                             กู้ยืม

                  ๑.โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้เงิน  จ าเลยให้การต่อสู้ว่าสัญญากู้เงินเป็นนิติกรรมอ าพราง

                  สัญญาจ้างแรงงาน  ความจริงจ าเลยไม่ได้รับเงินเลย

                  ประเด็นข้อพิพาท  จ าเลยกู้เงินโจทก์ตามฟ้องหรือไม่

                  หน้าที่น าสืบ  ให้จ าเลยเป็นฝ่ายน าสืบก่อน

                  เหตุผล   จ าเลยมิได้ปฏิเสธว่ามิได้ท าสัญญากู้เงินตามฟ้อง  ถือว่าจ าเลยรับว่าท าสัญญากู้เงิน

                  เมื่อจ าเลยกล่าวอ้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ว่าสัญญากู้เงินก็เป็นนิติกรรมอ าพราง อันเป็นการต่อสู้ว่า

                  สัญญากู้เงินไม่สมบูรณ์  ภาระการพิสูจน์ย่อมตกแก่จ าเลย  จ าเลยจึงมีหน้าที่น าสืบก่อน (ฎีกาที่

                  ๕๐๗/๒๔๙๗)


                  ๒.โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้เงิน  จ าเลยให้การต่อสู้ว่า  สัญญากู้เงินปลอม โจทก์หลอก

                  ให้จ าเลยลงชื่อในกระดาษแบบพิมพ์เปล่าแล้วไปกรอกข้อความเอาเองโดยจ าเลยไม่ได้รับเงิน

                  ประเด็นข้อพิพาท   จ าเลยกู้เงินโจทก์ตามฟ้องหรือไม่

                  หน้าที่น าสืบ   ให้โจทก์เป็นฝ่ายน าสืบก่อน
   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135