Page 126 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 126

คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง   ๙๘


                                    ตัวอย่างการก าหนดประเด็นข้อพิพาทและหน้าที่น าสืบ


                                                            สัญญา

                         โจทก์ฟ้องว่า  จ าเลยผิดสัญญาซื้อขายไม่ส่งมอบสินค้าตามก าหนดเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับ

                  ความเสียหาย  จ าเลยให้การว่า  โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ยอมรับสินค้าเอง  จ าเลยมิได้ผิดสัญญา

                  วันชี้สองสถานจ าเลยรับว่าจ าเลยผิดสัญญา  แต่แถลงต่อไปว่าโจทก์ไม่เสียหาย

                  ประเด็นข้อพิพาท  โจทก์ได้รับความเสียหายเพียงใดหรือไม่


                  หน้าที่น าสืบ  ให้โจทก์เป็นฝ่ายน าสืบก่อน

                  เหตุผล  โจทก์ฟ้องว่าจ าเลยผิดสัญญา  จ าเลยปฏิเสธ  แต่ในวันชี้สองสถานจ าเลยรับว่าจ าเลยผิด

                  สัญญา  จึงไม่ต้องก าหนดประเด็นข้อพิพาทว่าจ าเลยผิดสัญญาหรือไม่  ส่วนค่าเสียหายแม้จ าเลย

                  มิได้ให้การต่อสู้ไว้  โจทก์ก็มีหน้าที่น าสืบให้ฟังได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายเพียงใดเพราะ

                  โจทก์จะมีสิทธิเรียกค่าเสียหายก็ต่อเมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายจริงและเรียกค่าเสียหายได้

                  จึงต้องก าหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทและภาระการพิสูจน์ตกแก่โจทก์  โจทก์จึงมีหน้าที่น าสืบก่อน

                  (ฎีกาที่ ๔๗/๒๔๘๙)


                                                             ละเมิด

                  ๑. โจทก์ฟ้องว่า  จ าเลยขับรถยนต์โดยประมาทชนรถจักรยานที่โจทก์ขับมาท าให้โจทก์ได้รับ

                  บาดเจ็บขอให้ช าระค่าเสียหาย  จ าเลยให้การว่าเหตุเกิดเพราะความผิดของฝ่ายโจทก์ที่ขับ

                  รถจักรยานตัดหน้ารถยนต์ที่จ าเลยขับ  และโจทก์มิได้เสียหายตามฟ้อง

                  ประเด็นข้อพิพาท

                            ๑.  เหตุที่รถชนกันเป็นเพราะความผิดของโจทก์หรือไม่

                            ๒.  ค่าเสียหายของโจทก์มีเพียงใด

                  หน้าที่น าสืบ

                           ประเด็นข้อแรก  จ าเลยเป็นฝ่ายน าสืบก่อน

                           ส่วนประเด็นข้อหลัง  โจทก์เป็นฝ่ายน าสืบ

                  เหตุผล  ประเด็นข้อแรกจ าเลยรับว่าขับรถยนต์ชนรถจักรยานที่โจทก์ขับมาจริง  จ าเลยเป็น


                  ผู้ครอบครองยานพาหนะอันเดินด้วยก าลังเครื่องจักรกล  จะต้องรับผิดชอบเพื่อความเสียหาย
                  อันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น  เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดเพราะ


                  ความผิดของผู้ต้องเสียหายเองตาม ป.พ.พ. มาตรา ๔๓๗ ดังนั้น ภาระการพิสูจน์ในประเด็นข้อแรก

                  จึงตกแก่จ าเลย (ฎีกาที่ ๕๕๙/๒๕๐๐)  ส่วนประเด็นข้อสองเรื่องค่าเสียหายนั้นภาระการพิสูจน์ย่อมตก

                  แก่โจทก์
   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131