Page 152 - คู่มือตุลาการ เล่มที่ 1 วิ.แพ่ง มีสารบัญ ebook
P. 152

คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความแพ่ง   ๑๒๔


                  มาตรา ๒๔  เป็นค าสั่งระหว่างพิจารณา  เมื่อโจทก์เห็นว่าศาลชอบที่จะสืบพยานโจทก์ต่อไป  โจทก์ต้อง

                  โต้แย้งค าสั่ง  มิฉะนั้นต้องห้ามอุทธรณ์ตามมาตรา ๒๒๖(๒) (ฎีกาที่ ๒๑๕๘/๒๕๓๗)


                            ๓.๕  หากศาลมิได้วินิจฉัยชี้ขาดให้เป็นคุณแก่ฝ่ายที่ยกปัญหาข้อกฎหมายขึ้นอ้างแล้ว

                  ไม่เรียกว่าเป็นค าสั่งวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นแต่เป็นค าสั่งระหว่างพิจารณาซึ่งจะอุทธรณ์ฎีกาทันทีไม่ได้

                  เช่น จ าเลยขอให้ศาลชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นว่า  ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่    ถ้าศาลวินิจฉัยว่า

                  ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม เป็นค าสั่งระหว่างพิจารณา (ฎีกาที่ ๒๒๖/๒๕๐๔) หรือจ าเลยขอให้ศาล

                  ชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ  ศาลสั่งว่าฟ้องโจทก์ ไม่ขาดอายุความ

                  เป็นค าสั่งระหว่างพิจารณา  เมื่อไม่ได้โต้แย้งจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ค าสั่งดังกล่าว (ฎีกาที่  ๗๑/๒๕๐๕)


                            ๓.๖  ถ้าศาลยกค าร้องของโจทก์หรือจ าเลยที่ขอให้ชี้ขาดตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๔ หรือสั่ง

                  ไม่รับวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นตามที่คู่ความฝ่ายหนึ่งร้องขอ  เป็นค าสั่งระหว่างพิจารณา

                  (ฎีกาที่ ๑๔๘/๒๔๙๑, ๑๐๓๒ - ๑๐๓๓/๒๔๙๔, ๒๒๐๐/๒๕๑๔)


                            ๓.๗  ศาลชั้นต้นสั่งชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นตาม ป.วิ.พ.  มาตรา ๒๔ แล้ว ศาลอุทธรณ์เห็นว่า

                  ไม่ควรชี้ขาดเบื้องต้น จึงให้ยกค าสั่งศาลชั้นต้นแล้วด าเนินกระบวนพิจารณาต่อไป  คู่ความฎีกาได้

                  ไม่เป็นค าสั่งระหว่างพิจารณา  (ฎีกาที่ ๒๖๘/๒๕๙๑ ประชุมใหญ่)


                            ๓.๘  การขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๔ คู่ความต้องยื่นเฉพาะ

                  คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นเท่านั้น จะมาขอในชั้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ (ค าสั่งค าร้อง

                  ศาลฎีกาที่ ๑๓๔๖/๒๕๒๘, ๑๘๘/๒๕๓๒)


                            ๓.๙  คู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๔  หากศาลยังไม่ได้

                  วินิจฉัยให้ตามขอ  คู่ความมีสิทธิยื่นค าขอเช่นว่านั้นได้อีก ไม่เป็นกระบวนพิจารณาซ ้า  หากศาล

                  เห็นสมควรย่อมมีค าสั่งใหม่ให้วินิจฉัยตามขอได้โดยไม่ต้องเพิกถอนค าสั่งเดิม  เพราะไม่ใช่

                  กระบวนพิจารณาผิดระเบียบ (ฎีกาที่ ๓๕๗๔/๒๕๓๖)

                            ๓.๑๐  ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๔  อันท าให้คดีเสร็จไป


                  ทั้งเรื่อง  การที่โจทก์อุทธรณ์และจ าเลยฎีกาต่อมา  จึงเป็นการอุทธรณ์และฎีกาค าสั่งตาม ป.วิ.พ.

                  มาตรา ๒๒๗  ต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียงชั้นศาลละ ๒๐๐ บาท ตามตาราง ๑ ข้อ ๒ ข. ท้าย ป.วิ.พ.

                  มิใช่เสียตามทุนทรัพย์ที่พิพาท (ฎีกาที่ ๑๓๔๑/๒๕๓๗, ๓๓๗๐/๒๕๓๘)

                                   อนึ่ง  แม้จะมีค าขอให้ชนะคดีมาด้วยก็ตาม  ก็ยังคงเสียค่าขึ้นศาลเพียง  ๒๐๐ บาท

                  เช่น ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในข้อกฎหมายแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์อุทธรณ์

                  โดยเสียค่าขึ้นศาล ๒๐๐ บาท ต่อมาแม้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกค าพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ยกฟ้อง
   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157