Page 139 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 139
ส่วนที่ ๓ หน้า ๑๒๗
พิจารณาเรื่องร้องเรียน กรณีขอให้คณะกรรมาธิการพิจารณาติดตามการยุติการตั้งครรภ์
ของสถานพยาบาลตามประมวลกฎหมายอาญาที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
ั
คณะกรรมาธิการกิจเด็กเยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พการ กลุ่มชาติพนธุ์ และผู้มีความหลากหลาย
ิ
ทางเพศ ได้รับจดหมายเปิดผนึกร้องเรียนจากเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม
และภาคีเครือข่าย เพอขอให้พิจารณากรณีสถานการณ์ปัญหาของระบบบริการยุติการตั้งครรภ์ในสถานพยาบาล
ื่
ของรัฐ ซึ่งมีจ านวนที่ไม่เพยงพอต่อการให้บริการ และมีสถานพยาบาลจ านวนหนึ่งปฏิเสธการให้บริการ
ี
หรือให้บริการยุติการตั้งครรภ์โดยก าหนดเงื่อนไขอื่นนอกเหนือจากที่มาตรา ๓๐๕ แห่งประมวลกฎหมายอาญา
และข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ของผู้ประกอบวิชาชีพ
เวชกรรมตามมาตรา ๓๐๕ แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๖๔ ก าหนดไว้ รวมทั้งการไม่ส่งต่อให้ไป
รับบริการในสถานพยาบาลอื่น ส่งผลให้ผู้ประสบปัญหาตั้งครรภ์โดยที่ไม่มีความพร้อม ไม่สามารถเข้าถึง
บริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ประกอบกับมีประเด็นข้อร้องเรียน
จ านวน ๓ ประเด็น ดังนี้
๑. กระทรวงสาธารณสุขควรสื่อสารท าความเข้าใจต่อสถานพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ
เกี่ยวกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาในประเด็นการยุติการตั้งครรภ์ และแนวทางการด าเนินการยุติ
การตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยตามที่กฎหมายก าหนด
ิ่
๒. กระทรวงสาธารณสุขควรเร่งด าเนินการเพมจ านวนสถานพยาบาลที่ให้บริการยุติการตั้งครรภ์
ที่มีความปลอดภัยให้คลอบคลุมและเพยงพอต่อการให้บริการอย่างน้อยจังหวัดละ ๑ แห่ง รวมทั้งพฒนา
ั
ี
ื่
ระบบการส่งต่อเพอให้สถานพยาบาลที่ไม่สามารถให้บริการยุติการตั้งครรภ์ได้ด าเนินการส่งต่อไปยัง
สถานพยาบาลแห่งอื่นที่มีศักยภาพ
๓. กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรหารือร่วมกันเพอก าหนดแนวทาง
ื่
ให้ประชาชนที่ใช้สิทธิรักษาพยาบาลแต่ละประเภท ได้แก่ สิทธิหลักประกันสุขภาพ สิทธิประกันสังคม สิทธิ
สวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ และสิทธิอื่นตามที่กฎหมายก าหนด สามารถเข้าถึงบริการยุติการ
ตั้งครรภ์ การคุมก าเนิด รวมถึงการด าเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย ได้อย่างเท่าเทียมกันโดยไม่เสีย
ค่าใช้จ่าย
คณะกรรมาธิการ ได้พจารณาข้อเรียกร้องดังกล่าวพร้อมทั้งรับข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการ
ิ
ดังนี้
๑. ให้เร่งรัดรัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขต้องสื่อสารชี้แจงต่อสถานพยาบาลของรัฐทุกแห่ง
ถึงการปรับเปลี่ยนกฎหมายท าแท้ง และตอบสนองต่อนโยบายด้านการป้องกันการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย
๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งเพิ่มจ านวนสถานบริการที่ให้บริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย
ให้ครอบคลุมและเพียงพอต่อสภาพปัญหา
ื่
ั
๓. ให้รัฐบาลเร่งรัดพฒนาจัดท าระบบการส่งต่ออย่างรวดเร็ว เพอให้สถานพยาบาลที่ไม่สามารถ
ให้บริการยุติการตั้งครรภ์ได้ด าเนินการจัดระบบส่งต่อขึ้นในแต่ละพื้นที่
๔. คืนสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการยุติการตั้งครรภ์ การคุมก าเนิดและอื่น ที่เกี่ยวข้อง
ให้กับกลุ่มประกันสังคม ข้าราชการ และสิทธิสุขภาพอื่น