Page 238 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25

หน้า ๒๒๖ ส่วนที่ ๓

ปัญหาที่ดินท ากินและถิ่นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์

ณ ศาลาประชุมบ้านร่มฟ้าไทย อ าเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
วันอาทิตย์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

และปัญหาด้านที่อยู่อาศยทับซ้อนกับเขตป่าอนุรักษ์
ั
วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๔
ณ ชุมชนม่อนแจ่ม อ าเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลาย
้
ทางเพศ ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน เพื่อรับทราบปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่วนอุทยานภูชี้ฟา
้
อ าเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ณ ศาลาประชุมบ้านร่มฟาไทย อ าเภอเทิง
จังหวัดเชียงราย อันเนื่องมาจากผลกระทบของการบังคับใช้พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. ๒๕๖๒
พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒
รวมทั้งมาตรการทวงคืนผืนป่าของภาครัฐ ได้แก่

ื้
๑. ปัญหาที่ส าคัญของราษฎรกลุ่มชาติพนธุ์ในพนที่
ั
ดังกล่าว คือ การไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งท าให้ไม่สามารถเข้าถึงระบบ
สวัสดิการและระบบสาธารณูปโภคขั้นพนฐานจากรัฐได้ เช่น การศึกษา
ื้
การรักษาพยาบาล และการถือครองที่ดินอยู่อาศัย เนื่องจากหน่วยงาน
ภาครัฐออกกฎระเบียบในการรับบริการหรือสวัสดิการด้านต่าง ๆ แก่
บุคคลเฉพาะผู้ที่มีสัญชาติไทย เป็นต้น
๒. ปัญหาด้านที่ดินท ากินและที่อยู่อาศัยซ้อนทับเขตอุทยานแห่งชาติ โดยได้รับทราบข้อมูลว่า

พนที่ภูชี้ฟาเป็นวนอุทยานที่ก าลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมการประกาศก าหนดเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งได้สร้าง
ื้
้
้
ื้
ความกังวลต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบเขตวนอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟา ในประเด็นสิทธิการใช้พนที่
ื้
ทางจิตวิญญาณและพนที่การเกษตรของชุมชน และการบังคับอพยพออกจากชุมชนดั้งเดิม โดยประชาชน
ื้
ในพนที่ดังกล่าวได้มีความคิดเห็นว่า ภาครัฐควรมีการปรับมุมมอง
ื้
หรือการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้พนที่หรือการตั้งชุมชนของ
ประชาชนตามแนวชายแดนว่าเป็นการรักษาความมั่นคงให้กับชายแดน
ประเทศไทย ไม่ใช่การละเมิดหรือบุกรุกพนที่ อีกทั้งการใช้พนที่
ื้
ื้
ท าเกษตรของประชาชนไม่ใช่การเผาท าลายป่า แต่เป็นเพียงการกันแนว
เขตพื้นที่ในการท าการเกษตรเท่านั้น
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการได้มีข้อสังเกตว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประกาศก าหนดเขต

อุทยานแห่งชาติ ควรประสานแกนน าราษฎรในพื้นที่ เพื่อร่วมมือกันจัดท าแผนที่ทรัพยากรชุมชน ซึ่งจะเป็น
เครื่องมือส าคัญในการสร้างความเข้าใจร่วมกัน และท าให้การประกาศเขตพนที่อนุรักษ์ไม่ทับซ้อนกับ
ื้
เขตพื้นที่ท ากินและอยู่อาศัยดั้งเดิมของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งตั้งชุมชนหรืออยู่อาศัยมาก่อนที่ภาครัฐจะมีการ
ประกาศก าหนดเขตอนุรักษ์