Page 299 - 57 คู่มือปฏิบัติงานโรงเรียนพระปริยัติธรรม
P. 299
๒๙๗
๔) การมีส่วนร่วม (Participation) หมายถึง การที่สมาชิกทุกคนของหน่วยงานหรือองค์กร
ร่วมกันด าเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยมีลักษณะของกระบวนการ (Process) มีขั้นตอนที่มุ่งหมายจะให้
เกิดการเรียนรู้ (Learning) อย่างต่อเนื่อง มีพลวัต (Dynamic) กล่าวคือ มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่าง
ต่อเนื่องสม่ าเสมอ มีการแก้ปัญหา การร่วมกันก าหนดแผนงานใหม่ๆ เพื่อสร้างความยั่งยืนในความสัมพันธ์
ของทุกฝ่ายที่เข้าร่วมด าเนินการ การมีส่วนร่วมก่อให้เกิดผลดีต่อการขับเคลื่อนองค์กรหรือเครือข่าย
ผู้ที่เข้ามามีส่วนร่วมย่อมเกิดความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการบริหาร และที่ส าคัญผู้ที่มีส่วนร่วมจะมี
ความรู้สึกเป็นเจ้าของเครือข่าย ความรู้สึกเป็นเจ้าของจะเป็นพลังในการขับเคลื่อนเครือข่ายที่ดีที่สุด
๓. การวางแผนการบริหารงานการศึกษา
๓.๑ นโยบายและการวางแผนการศึกษา
การวางแผนการศึกษา เป็นเครื่องมือส าคัญยิ่งของผู้บริหารการศึกษาทุกระดับ เนื่องจากการ
วางแผนเป็นขั้นตอนแรกที่จะต้องด าเนินการก่อนสิ่งอื่นๆทั้งสิ้นมิฉะนั้นแล้วผู้บริหารจะไม่มีกรอบ หรือเค้า
โครงการด าเนินงานที่ต่อเนื่องและสัมพันธ์กันหรือกล่าวได้ว่าไม่มีคู่มือที่ใช้ก ากับควบคุมการด าเนินงานให้
บรรลุตามวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่ก าหนดไว้ การวางแผนการศึกษาจึงส าคัญยิ่งต่อการบริหารจัด
การศึกษาให้ประสพความส าเร็จ ที่ควรเกิดจากผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายร่วมกันวางแผนอย่างเป็นกระบวนการ
โดยอาศัยการรวบรวมข้อมูลสารสนเทศ การวิเคราะห์สภาพปัจจุบันของการจัดการศึกษา การก าหนด
วัตถุประสงค์ การจัดท าแผน การจัดท ารายละเอียดของแผน การน าแผนไปปฏิบัติ การติดตามประเมินผล
การวางแผนการศึกษาให้ประสบความส าเร็จ ต้องสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม
การเมือง ฯลฯ เป็นไปตามความต้องการและบรรลุเป้าหมายของหน่วยงานการศึกษาแต่ละระดับ ดังนั้น
จึงจ าเป็นต้องศึกษา วิเคราะห์พิจารณาให้สอดคล้องกับกฎหมายสูงสุดของประเทศ กฎหมายการศึกษา
แผนพัฒนาฯ นโยบายทางการศึกษา ดังรายละเอียดต่อไปนี้
๑. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๔๐ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาโดยตรงมี ๒ มาตรา
คือ
๑.๑ มาตรา ๔๓ บุคคลย่อมมีสิทธิ์เสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า ๑๒ ปี
ที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย
๑.๒ มาตรา ๘๑ รัฐต้องจัดการศึกษา อบรมและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษา อบรมให้เกิด
ความรู้คู่คุณธรรม จัดให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาแห่งชาติ ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับ
การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และสังคมจะเห็นได้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ท าให้ประเทศไทยมีกฎหมาย
เกี่ยวกับการศึกษาแห่งชาติ นั่นคือ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒
๒. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๕๐ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษามี ๒ มาตรา คือ
๒.๑ มาตรา ๔๙ บุคคลย่อมมีสิทธิ์เสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า ๑๒ ปี
ที่รัฐจะต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย
๒.๒ มาตรา ๕๐ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในทางวิชาการ การศึกษาอบรม การเรียนการสอน การวิจัย
และการเผยแพร่งานวิจัยตามหลักวิชาการ
๓. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒
๓.๑ มาตรา ๓๓ สภาการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมแห่งชาติ มีหน้าที่พิจารณาเสนอนโยบาย
แผนและมาตรฐานการศึกษาของชาติ นโยบายและแผนด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม
จาก พรบ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓๓ ท าให้เกิดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษาของชาติขึ้นมาใช้ในการ
บริหารจัดการศึกษาของไทย
คู่มือปฏิบัติงาน
โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา