Page 519 - Full paper สอฉ.3-62
P. 519
ชี้น า ผู้ถ่ายทอดความรู้ ไปเป็นผู้ช่วยเหลือ ส่งเสริมและ เหมืองข้อมูล ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จ านวน 21 คน ซึ่ง
สนับสนุนนักเรียนในการแสวงหาความรู้จากสื่อและแหล่งการ ได้มาโดยวิธีการเลือกเจาะจง
เรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ขึ้นได้ด้วย 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย
ตัวเอง รวมถึงการเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย ได้แก่ชุดการเรียน เรื่อง การหา
การเรียนการสอน รู้จักคิดค้นลงมือปฏิบัติจริง (Learning by กฎความสัมพันธ์ของข้อมูล โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ
Doing) ตามความถนัดและความสนใจของแต่ละคนสามารถ สืบสวนสอบสวน
ค้นหาค าตอบและสรุปความคิดได้ด้วยตัวเอง โดยกิจกรรมการ 3.2.1 การออกแบบชุดการเรียน เรื่องการหากฎ
เรียนการสอนจะต้องมีลักษณะที่ช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วม ความสัมพันธ์ของข้อมูล โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบสวน
อย่างกระตือรือร้น จดจ่อผูกพันกับกิจกรรมที่มีคุณภาพเน้นผล สอบสวน ดังนี้
ถาวรที่เกิดแก่ตัวของนักเรียนเอง (มาตรา ๒๒)
รูปแบบการสอนแบบสืบสวนสอบสวน เป็นวิธีการจัด 1). ศึกษาวิธีการหากฏความสัมพันธ์ของข้อมูล และศึกษา
กิจกรรมการเรียนการสอนแบบกลุ่ม โดยให้สมาชิกทุกคนมี งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งการ 2). ขั้นการออกแบบชุดการเรียน ตามเทคนิคแบบสืบสวน
กันและกันดังนั้นผู้วิจัย จึงมีความสนใจในการพัฒนาชุดการ สอบสวน
เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบกลุ่มสืบสวนสอบสวน ใน 3). ขั้นการพัฒนา ด าเนินการสร้างและพัฒนาชุดการเรียน
เรื่องการหาความสัมพันธ์ของข้อมูล ในรายวิชา เหมืองข้อมูล
4). ขั้นการทดลองใช้
2. วัตถุประสงค์การวิจัย 5). สรุปรายงานผลการวิจัย
2.1 เพื่อพัฒนาชุดการเรียน เรื่อง การหากฎความสัมพันธ์ 4. ผลการวิจัย
ของข้อมูลโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบสวนสอบสวน การวิจัยเรื่องการพัฒนาชุดการเรียน เรื่องการหากฎความ
2.2 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน กับ สัมพันธ์ของข้อมูล โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบสวน
หลังเรียน ด้วยชุดการเรียน เรื่อง การหากฎความสัมพันธ์ของ สอบสวน สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้
ข้อมูล โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบสวนสอบสวน 1. ผลการพัฒนาชุดการเรียน เรื่องการหากฎความสัมพันธ์
สมมติฐานการวิจัย ของข้อมูล โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบสวนสอบสวน พบว่า
1. ชุดการเรียน เรื่อง การหากฎความสัมพันธ์ของข้อมูลโดย มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ก าหนดซึ่งมีค่า E1/E2 เท่ากับ
ใช้รูปแบบการสอนแบบสืบสวนสอบสวน มีประสิทธิภาพตาม 82.32/83.00 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
เกณฑ์ 80/80 2.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยชุดการเรียนโดยใช้
2. ผู้เรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอน แบบสืบสวน รูปแบบการสอน แบบสืบสวนสอบสวน ผู้เรียนมีคะแนนเฉลี่ย
สอบสวน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. วิธีด าเนินการวิจัย
3.1ขอบเขตการวิจัย 5. สรุปและอภิปรายผลการวิจัย
3.1.1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย 1. ชุดการเรียน เรื่องการหากฎความสัมพันธ์ของข้อมูล
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักศึกษาระดับ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบสวนสอบสวนมีประสิทธิภาพ
ปริญญาตรีหลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต สาขา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ 82.32/83.00 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 ประสิทธิภาพ
วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม ที่ ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา
ของกระบวนการเท่ากับ(E1) 82.32 และประสิทธิภาพของ
ผลรวม(E2) เท่ากับ 83.00 ทั้งนี้เนื่องจากการพัฒนาชุดการเรียน
กนกกาญจน์ แสนสุวรรณ 2
E-mail address: kanokkarnj@gmail.com 501
